SBOTOP: แนวรับรั่ว ฟอร์มดร็อป ลิเวอร์พูลเจอปัญหาหนักทั้งเกมรับและสภาพร่างกาย

SBOTOP: แนวรับรั่ว ฟอร์มดร็อป ลิเวอร์พูลเจอปัญหาหนักทั้งเกมรับและสภาพร่างกาย

ตำนานกองหลังของลิเวอร์พูล เจมี คาร์ราเกอร์ (Jamie Carragher) ออกมาแสดงความเห็นอย่างตรงไปตรงมาว่า อดีตต้นสังกัดของเขากำลังเผชิญปัญหาใหญ่ในการปรับตัวเข้ากับความเข้มข้นของเกมในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยเฉพาะในแง่ของความแข็งแกร่งทางร่างกาย ซึ่งส่งผลให้ “หงส์แดง” ฟอร์มดร็อปลงอย่างน่าเป็นห่วงในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

ลิเวอร์พูลทรุดหนักหลังพ่ายปีศาจแดง

ความพ่ายแพ้ล่าสุดของลิเวอร์พูลเกิดขึ้นในเกมที่ พ่ายต่อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-2 ที่สนามแอนฟิลด์ ซึ่งถือเป็นความปราชัยนัดที่ 4 ติดต่อกันในทุกรายการของทีม นี่ยิ่งสร้างความเจ็บปวดให้แฟนบอลมากขึ้น เพราะ “ปีศาจแดง” ไม่เคยบุกมาชนะที่แอนฟิลด์ได้เลยตั้งแต่ปี 2016 อีกทั้งฟอร์มของพวกเขาในฤดูกาลนี้ก็ไม่คงเส้นคงวาเช่นกัน

ผลการแข่งขันดังกล่าวทำให้ความมั่นใจของลูกทีมภายใต้การคุมทัพของ อาร์เน่ สลอต (Arne Slot) สั่นคลอนอย่างหนัก โดยเฉพาะแนวรับที่ดูเปราะบางกว่าที่เคย และบรรดานักเตะหลักอย่าง อิบราฮิมา โกนาเต้ (Ibrahima Konaté) ก็แสดงให้เห็นถึงการตกลงของมาตรฐานจากฤดูกาลก่อน

คาร์ราเกอร์ระบุ “ลิเวอร์พูลไม่พร้อมสำหรับความหนักหน่วงของพรีเมียร์ลีก”

ในรายการวิเคราะห์ของ Sky Sports, คาร์ราเกอร์ได้ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนถึง “ปัญหาทางกายภาพ” ที่เกิดขึ้นในทีมลิเวอร์พูล

“หากคุณมองดูการเสริมทัพของลิเวอร์พูลตอนนี้ จะเห็นว่าผู้เล่นฟูลแบ็กส่วนใหญ่มีรูปร่างค่อนข้างเล็ก และไม่มีความแข็งแกร่งพอในการดวลลูกกลางอากาศหรือปะทะตัวต่อตัว,” คาร์ราเกอร์กล่าว

เขายังเสริมอีกว่า

“ในจังหวะลูกตั้งเตะ ลิเวอร์พูลดูไม่ใหญ่และไม่แข็งแกร่งพอ พวกเขาดูเหมือนไม่สามารถรับมือกับสไตล์ฟุตบอลที่เน้นแรงปะทะในพรีเมียร์ลีกได้ดีพอ”

คาร์ราเกอร์ยังย้ำด้วยว่า ปัญหาของลิเวอร์พูลไม่ได้อยู่แค่ตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง แต่เกิดจากหลายจุดเล็กๆ ที่สะสมจนกลายเป็นปัญหาใหญ่ในภาพรวม

“ผมไม่คิดว่ามีปัญหาใหญ่เพียงอย่างเดียว แต่เป็นหลายปัญหาย่อยที่รวมกัน ลิเวอร์พูลในตอนนี้ไม่ได้มีความแน่นอนเหมือนทีมลุ้นแชมป์ พวกเขาต้องแก้ไขสิ่งเหล่านี้ หากยังอยากกลับไปอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์อีกครั้ง,” เขากล่าวอย่างชัดเจน

เกมรับรั่วซ้ำซาก จุดอ่อนที่คู่แข่งจับทางได้

คาร์ราเกอร์ยกตัวอย่างจากประตูชัยของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในเกมล่าสุด ซึ่งมาจากจังหวะลูกตั้งเตะ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลิเวอร์พูลเสียประตูในลักษณะนี้ เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยโดน นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด และ คริสตัล พาเลซ ลงโทษด้วยจังหวะคล้ายกัน

สถิติยังสะท้อนปัญหานี้อย่างชัดเจน — ลิเวอร์พูลเสียไปแล้ว 11 ประตูจาก 8 นัดในพรีเมียร์ลีก ซึ่งเทียบเท่ากับจำนวนประตูที่พวกเขาเสียหลังผ่านไป 14 นัดเมื่อฤดูกาลก่อน แสดงให้เห็นถึงการถดถอยในด้านเกมรับภายใต้การทำทีมของอาร์เน่ สลอต

ฟูลแบ็กยังขาดประสบการณ์ – กองหน้าช่วยเกมรับไม่พอ

ผู้เล่นดาวรุ่งอย่าง มิโลช เคอร์เคซ (Milos Kerkez) และ คอนเนอร์ แบรดลีย์ (Conor Bradley) ยังไม่สามารถสร้างความมั่นใจให้แฟนบอลได้ ทั้งคู่มักถูกโจมตีทางด้านข้าง และมักไม่มีตัวช่วยซัพพอร์ตจากแนวรุกมากพอ

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (Mohamed Salah) เองก็ได้รับอิสระในเกมรุกมากเกินไป ทำให้พื้นที่ด้านหลังของเขาถูกโจมตีง่าย ส่งผลให้แนวรับฝั่งขวาของทีมกลายเป็นช่องว่างใหญ่ที่คู่แข่งมักใช้โจมตีซ้ำๆ

ลิเวอร์พูลต้องรีบแก้ ก่อนทุกอย่างจะสาย

อีกหนึ่งจุดที่น่ากังวลคือ ลิเวอร์พูลมักเสียประตูในช่วงต้นและท้ายเกม โดยใน 3 นัดล่าสุดของพรีเมียร์ลีก “หงส์แดง” เสียประตูในช่วง 15 นาทีแรกและ 10 นาทีสุดท้ายทุกนัด ซึ่งเป็นสัญญาณถึงสมาธิและความฟิตที่ลดลงอย่างชัดเจน

ในขณะเดียวกัน อาร์เซน่อล คู่แข่งสำคัญในลุ้นแชมป์ ยังคงโชว์ฟอร์มเกมรับที่เหนียวแน่นเสียเพียง 3 ประตูเท่านั้นตลอดฤดูกาล และตอนนี้พวกเขาทิ้งห่างลิเวอร์พูลออกไปถึง 4 คะแนน บนตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก

ลิเวอร์พูลต้องกลับมาแข็งแกร่งทั้งร่างกายและจิตใจ

บทวิเคราะห์ของคาร์ราเกอร์เป็นเหมือน “สัญญาณเตือน” สำหรับอาร์เน่ สลอตและลูกทีม หากลิเวอร์พูลต้องการกลับมาเป็นทีมลุ้นแชมป์ พวกเขาจำเป็นต้องยกระดับสภาพร่างกาย ความแน่นอนในแนวรับ และความมุ่งมั่นในเกมที่ต้องเจอกับทีมระดับสูงในพรีเมียร์ลีก

อ่านด้วย :