ก่อนศึกดวลเดือดรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ระหว่าง อินเตอร์ มิลาน กับ บาร์เซโลนา จะระเบิดขึ้นที่สนามจูเซ็ปเป เมอัซซา จานนี อินฟานติโน่ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) ได้ออกมาเปิดเผยตัวตนอย่างตรงไปตรงมาว่า เขาเป็นแฟนบอลของ “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน แบบไม่ปิดบัง

การแสดงจุดยืนครั้งนี้ของอินฟานติโน่เกิดขึ้นระหว่างที่เขาเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกาเพื่อร่วมงาน Formula 1 Miami Grand Prix และร่วมประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับศึกฟุตบอลสโมสรโลก FIFA Club World Cup ที่จะจัดขึ้นในสหรัฐอเมริกาในเดือนหน้า

แม้จะอยู่ในบรรยากาศของสนามแข่งรถ แต่สายตาและจิตใจของประธานฟีฟ่ากลับจับจ้องไปยังการแข่งขันอันยิ่งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นระหว่างสองยักษ์ใหญ่แห่งยุโรป โดยอินเตอร์จะเปิดบ้านรับมือบาร์เซโลนาในเลกที่สอง หลังจากที่เลกแรกเสมอกันไปอย่างดุเดือด 3-3

ประธานฟีฟ่า อินฟานติโน่ยืนยันตัวตน: “ผมคือแฟนอินเตอร์!”

ในบทสัมภาษณ์ระหว่างเดินทาง เขาได้กล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า “ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าผมคือแฟนของอินเตอร์ ผมตามเชียร์พวกเขามานาน และผมก็ภูมิใจในฟอร์มของพวกเขาในเลกแรก”

คำพูดของอินฟานติโน่แสดงให้เห็นถึงความผูกพันลึกซึ้งกับทีมจากเมืองมิลาน แม้ว่าเขาจะดำรงตำแหน่งสูงสุดในวงการฟุตบอลโลกก็ตาม ท่าทีของเขาสะท้อนให้เห็นว่าความรักในฟุตบอลของเขาไม่ได้ถูกลบเลือนไปแม้อยู่ในตำแหน่งทางการ

สถานการณ์ของเลาตาโร่ มาร์ติเนซ และความคาดหวังของแฟนอินเตอร์

หนึ่งในประเด็นสำคัญที่สร้างความกังวลให้แฟนบอลอินเตอร์คือสภาพร่างกายของเลาตาโร่ มาร์ติเนซ กองหน้าทีมชาติอาร์เจนตินา ซึ่งต้องถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงครึ่งแรกของเกมเลกแรกเพราะปัญหากล้ามเนื้อ

แม้ว่าจะยังไม่แน่ว่าจะสามารถลงเล่นเต็มเกมได้หรือไม่ แต่เขาเองก็แสดงความตั้งใจว่าต้องการช่วยทีมในทุกวิถีทาง แม้เพียงแค่นั่งสำรอง ในขณะที่ฝั่งบาร์เซโลนาเองก็มีข่าวว่า โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กำลังเร่งฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บเช่นกัน

อินฟานติโน่ยังได้พูดถึงความผูกพันระหว่างอินเตอร์กับนักเตะอาร์เจนตินา โดยยกตัวอย่างตำนานอย่าง ดีเอโก้ ซิเมโอเน่, ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ และ ดีเอโก้ มิลิโต้ ที่ต่างเคยสร้างชื่อกับสโมสรแห่งนี้

“อินเตอร์คือทีมที่มีหัวใจแบบอาร์เจนตินา และผมเชื่อว่าพวกเขาจะทำได้” อินฟานติโน่กล่าวทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้ม

บาร์เซโลนาไม่อาจประมาท

แม้บาร์เซโลนาจะได้เปรียบจากการยิงประตูนอกบ้าน แต่ด้วยแรงกระตุ้นจากแฟนบอลในบ้านและกำลังใจจากบุคคลสำคัญในวงการลูกหนังอย่างอินฟานติโน่ ทำให้อินเตอร์มีความมั่นใจและแรงฮึดเต็มที่ในการล่าตั๋วเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ

ศึกนี้ไม่ใช่แค่การวัดฝีเท้าของสองยอดทีมยุโรปเท่านั้น แต่ยังเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรี และอาจเปลี่ยนทิศทางของฟุตบอลยุโรปในฤดูกาลนี้ไปเลยก็ว่าได้