ฤดูกาล 2024/2025 กลายเป็นช่วงเวลาที่น่าผิดหวังอย่างยิ่งสำหรับสองสโมสรยักษ์ใหญ่แห่งวงการฟุตบอลยุโรปอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เอซี มิลาน ที่ต่างประสบกับความล้มเหลวชนิดที่หาได้ยากในประวัติศาสตร์ของพวกเขา
ทั้งสองทีมต้องเผชิญกับความจริงที่เจ็บปวด เมื่อไม่สามารถคว้าตั๋วไปแข่งขันฟุตบอลถ้วยยุโรป ไม่ว่าจะเป็น ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก, ยูโรปาลีก หรือแม้แต่ ยูฟ่า ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ลีก สำหรับฤดูกาลหน้าได้ ซึ่งนอกจากจะกระทบต่อภาพลักษณ์และชื่อเสียงของสโมสรแล้ว ยังมีผลกระทบโดยตรงต่อรายได้ทางการเงินและแผนการดำเนินงานในอนาคต
เอซี มิลาน: ความผิดหวังส่งท้ายฤดูกาล
สำหรับ เอซี มิลาน ความคาดหวังในการกลับไปสู่เวทีระดับทวีปได้พังทลายลง หลังจากพ่ายแพ้ให้กับ โรม่า 1-3 ในเกมนัดรองสุดท้ายของ กัลโช่ เซเรีย อา ซึ่งส่งผลให้พวกเขาจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 9 ของตาราง – ต่ำกว่ามาตรฐานของทีมระดับแชมป์ยุโรป 7 สมัยอย่างสิ้นเชิง
แม้ “รอสโซเนรี่” จะสามารถคว้าแชมป์ ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียน่า ได้ในช่วงต้นปี แต่นั่นก็ไม่เพียงพอที่จะปลอบใจแฟนบอล หลังพลาดเป้าหมายสำคัญอื่น ๆ ทั้งในลีกและฟุตบอลถ้วย
หนึ่งในความผิดหวังที่สร้างแรงกระแทกหนัก คือการพ่ายแพ้ให้กับ โบโลญญ่า 0-1 ในนัดชิงชนะเลิศ โคปปา อิตาเลีย ซึ่งเป็นโอกาสสุดท้ายในการคว้าตั๋วไปยูโรปาลีก หากชนะได้
เซร์คิโอ คอนไซเซา กุนซือของมิลานยอมรับว่า ฤดูกาลนี้ถือเป็นความล้มเหลวอย่างแท้จริง และย้ำถึงความจำเป็นในการฟื้นฟูทีมและสร้างความสามัคคีเพื่ออนาคตที่ดีกว่า
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด: จุดตกต่ำสุดในรอบครึ่งศตวรรษ
sbotop เข้าไม่ได้ – สถานการณ์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยิ่งเลวร้ายกว่าเดิม หลังจากพลาดแชมป์ ยูโรปาลีก ด้วยการพ่ายแพ้ให้กับ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ 0-1 ในนัดชิงชนะเลิศ ซึ่งนั่นหมายความว่า “ปีศาจแดง” จะไม่มีชื่ออยู่ในรายการฟุตบอลยุโรปฤดูกาลหน้า
ที่น่าตกใจกว่านั้น คือการจบฤดูกาล พรีเมียร์ลีก ด้วยอันดับที่ 16 ซึ่งถือว่าเป็นผลงานแย่ที่สุดของสโมสรในรอบ 51 ปี เลยทีเดียว
รูเบน อาโมริม เฮดโค้ชชาวโปรตุเกส ยอมรับความผิดพลาดในแผนการทำทีม และเปิดเผยว่าเขาพร้อมจะอำลาตำแหน่งหากบอร์ดบริหารเห็นสมควร ท่ามกลางกระแสกดดันอย่างหนักจากแฟนบอลทั่วโลก
ปีแห่งการเปลี่ยนผ่าน: การบ้านครั้งใหญ่ของทั้งสองสโมสร
การที่ทั้ง เอซี มิลาน และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลาดโอกาสลงสนามในฟุตบอลยุโรปนั้น ไม่เพียงส่งผลต่อชื่อเสียงในเวทีระดับทวีป แต่ยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อรายได้จากสิทธิ์ถ่ายทอดสด, การสนับสนุนจากสปอนเซอร์ และยอดขายสินค้าที่ระลึก
ด้วยเหตุนี้ ทั้งสองสโมสรจึงจำเป็นต้องทำการ ประเมินผลงานและวางแผนฟื้นฟู อย่างรอบคอบ โดยทางฝั่งมิลาน คงต้องโฟกัสที่การสร้างทีมใหม่ ปรับปรุงแนวทางการเล่น และเสริมทัพด้วยนักเตะที่มีศักยภาพ เพื่อให้สามารถกลับมาลุ้นพื้นที่ยุโรปในฤดูกาลถัดไปได้อีกครั้ง
สำหรับแมนยู การกลับมาทวงความยิ่งใหญ่จะไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องเผชิญกับปัญหาหลายด้าน ทั้งเรื่องโครงสร้างบริหาร ความไม่แน่นอนในตัวกุนซือ ไปจนถึงคุณภาพของนักเตะในทีม
บทสรุป: ความล้มเหลวที่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของความยิ่งใหญ่
แม้ฤดูกาล 2024/2025 จะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เอซี มิลาน ในฐานะฤดูกาลแห่งความล้มเหลว แต่ก็อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ หากทั้งสองสโมสรสามารถเรียนรู้จากความผิดพลาดและกลับมาสร้างทีมที่แข็งแกร่งกว่าเดิมได้
แฟนบอลทั่วโลกคงต้องรอติดตามว่า สองยักษ์หลับแห่งยุโรปจะกลับมาได้เร็วแค่ไหน หรือจะจมหายไปในยุคของการเปลี่ยนแปลงที่ไม่มีใครรอใครอีกต่อไป
อ่านด้วย :
