ศึกฟุตบอลสโมสรโลก 2025 (FIFA Club World Cup 2025) ที่จะจัดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่ได้เป็นเพียงเวทีโชว์ฝีเท้าของซูเปอร์สตาร์ลูกหนังระดับโลกเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นสนามทดลองของฟีฟ่าในการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ ๆ และกฎการเล่นที่อาจเปลี่ยนโฉมหน้าวงการฟุตบอลไปตลอดกาล

ตั้งแต่การติดตั้งกล้องบนหัวของผู้ตัดสิน (Ref Cam) ไปจนถึงการปรับกฎเรื่องเวลาที่ผู้รักษาประตูสามารถครองบอล—ฟีฟ่ากำลังเตรียมปฏิวัติประสบการณ์ของแฟนบอลและคุณภาพของเกมการแข่งขันในทุกมิติ

กฎใหม่สำหรับผู้รักษาประตู: ครองบอลได้แค่ 8 วินาที!

หนึ่งในกฎใหม่ที่ได้รับการทดสอบคือ การจำกัดเวลาในการครองบอลของผู้รักษาประตูเหลือเพียง 8 วินาที เท่านั้น (จากเดิมที่เคยเป็น 6 วินาทีตามกฎเก่าแต่ไม่ค่อยมีการบังคับใช้จริงจัง)

หากผู้รักษาประตูถือบอลเกิน 8 วินาที ทีมตรงข้ามจะได้เตะมุมทันที!

Pierluigi Collina หัวหน้าคณะกรรมการผู้ตัดสินของฟีฟ่าให้เหตุผลว่า กฎเดิมถูกละเลยมานาน ผู้รักษาประตูหลายคนมักครองบอลเกิน 20-25 วินาที ซึ่งทำให้เกมเสียจังหวะและน่าเบื่อสำหรับผู้ชม

ในระหว่างการทดสอบในทวีปอเมริกาใต้ มีเพียง 2 จาก 160 นัดที่เกิดการละเมิดกฎนี้ แสดงให้เห็นว่าการนำกฎมาใช้จริงสามารถทำได้อย่างราบรื่นโดยไม่กระทบต่อความต่อเนื่องของเกม

Ref Cam: กล้องติดหัวผู้ตัดสินเพื่อประสบการณ์รับชมแบบใหม่

อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่น่าจับตามองคือ Ref Cam—กล้องขนาดเล็กที่ติดบนชุดหูฟังของผู้ตัดสินหลัก เพื่อบันทึกภาพจากมุมมองของผู้ตัดสินโดยตรง

กล้องนี้จะส่งสัญญาณผ่านเครือข่าย 5G ไปยังทีมถ่ายทอดสด ทำให้ผู้ชมทางบ้านได้รับประสบการณ์ใหม่ในการมองเกมจาก “สายตาผู้ตัดสิน” อย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตาม ฟีฟ่าระบุว่า กล้องนี้จะไม่ถูกนำไปใช้ในการถ่ายทอดสดเหตุการณ์ที่มีความละเอียดอ่อน เช่น การตัดสินจุดโทษหรือใบแดง เพื่อไม่ให้เกิดการตีความที่ผิดพลาด

สนามที่จะใช้ระบบนี้มีเพียง 6 สนาม NFL ที่มีโครงสร้างพื้นฐานรองรับการถ่ายทอด Ref Cam ส่วนสนามอื่น ๆ จะนำไปใช้เฉพาะกับเทปรีเพลย์และเนื้อหาพิเศษเท่านั้น

แท็บเล็ตเปลี่ยนตัว, VAR บนจอใหญ่ และเทคโนโลยีล้ำยุคอีกมากมาย

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการเปลี่ยนตัว ฟีฟ่าได้นำแท็บเล็ตมาใช้แทนกระดาษแบบเก่า ทำให้การแจ้งเปลี่ยนตัวทำได้รวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น

นอกจากนี้ หน้าจอใหญ่ในสนามจะเริ่มแสดงภาพจาก VAR ให้แฟนบอลรับชมแบบเรียลไทม์ก่อนประกาศผลอย่างเป็นทางการผ่านลำโพงภายในสนาม

เทคโนโลยีล้ำยุคอีกอย่างที่กำลังถูกทดสอบคือระบบ ตรวจจับล้ำหน้ากึ่งอัตโนมัติ (semi-automated offside) ที่จะส่งสัญญาณเสียงไปยังผู้ช่วยผู้ตัดสินทันทีหากมีการล้ำหน้าอย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์ล้ำหน้ามีความซับซ้อน ระบบจะส่งต่อให้ VAR เป็นผู้วิเคราะห์และตัดสินขั้นสุดท้าย

ผู้ตัดสินระดับโลกตบเท้าร่วมศึก – พร้อมทดสอบเทคโนโลยีใหม่เต็มรูปแบบ

ฟีฟ่าได้เรียกตัวผู้ตัดสินกว่า 117 คนจาก 41 ประเทศทั่วโลกเข้าร่วมการตัดสินในรายการนี้ ประกอบด้วยผู้ตัดสินหลัก, ผู้ช่วย และทีม VAR

รายชื่อผู้ตัดสินระดับโลกที่แฟนบอลคุ้นเคยก็รวมอยู่ในลิสต์ เช่น Michael Oliver และ Anthony Taylor จากอังกฤษ, Szymon Marciniak จากโปแลนด์, Clement Turpin จากฝรั่งเศส

ฝั่งเอเชียก็มี Alireza Faghani (ออสเตรเลีย), Omar Al Ali (ยูเออี), และ Ilgiz Tantashev (อุซเบกิสถาน) ขณะที่โซนอเมริกาใต้มี Wilton Sampaio (บราซิล) และ Facundo Tello (อาร์เจนตินา)

ผู้ตัดสินเหล่านี้ได้ผ่านการฝึกซ้อมและอบรมร่วมกันกว่า 10 วันก่อนเริ่มการแข่งขัน เพื่อให้มั่นใจว่าการทดลองนวัตกรรมต่าง ๆ จะดำเนินไปอย่างราบรื่นที่สุด

ฟุตบอลกำลังเข้าสู่ยุคใหม่ด้วยพลังแห่งเทคโนโลยี

การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่กำลังเกิดขึ้นในฟุตบอลโลกสโมสร 2025 คือก้าวสำคัญของฟีฟ่าในการยกระดับเกมให้ตอบโจทย์ทั้งความยุติธรรมและความตื่นเต้นของผู้ชม

จากกฎใหม่สำหรับผู้รักษาประตู, การเปิดมุมมองใหม่ผ่านกล้อง Ref Cam, ไปจนถึง VAR ที่เปิดเผยต่อสายตาแฟนบอล—ทั้งหมดล้วนสะท้อนว่า “อนาคตของฟุตบอล” กำลังเริ่มต้นขึ้นแล้วที่สหรัฐอเมริกา

อ่านด้วย :

• SBOTOP: ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ: ตำนานอัล อาห์ลี ปะทะความยอดเยี่ยมของลิโอเนล เมสซี
• SBOTOP: ราฟินญ่าเหมือนยอมรับชะตา ว่าโอกาสคว้าบัลลงดอร์ 2025 คงเป็นไปไม่ได้
• SBOTOP: เส้นทางแห่งความสำเร็จของเอ็นโซ่ มาเรสก้า: บทเรียนจากตำนานลูกหนัง