แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่หาได้ยากในรอบหลายปี — เมื่อทีมมี “แนวรับล้นคุณภาพ” จนกลายเป็นความท้าทายใหม่ของกุนซือ รูเบน อาโมริม ที่ต้องจัดการกับกองหลังระดับแถวหน้าถึงห้าคนในทีมชุดเดียว
หลังจากการเข้ามาบริหารของกลุ่ม INEOS สโมสรก็มีการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ในรอบสองปีที่ผ่านมา และในฤดูกาลนี้ โฟกัสของพวกเขาถูกย้ายจากการเสริมแนวรุกมาสู่การสร้างแนวรับที่แข็งแกร่งและสมดุลมากกว่าเดิม
ก่อนหน้านี้ อาโมริมได้เพลิดเพลินกับความลึกของขุมกำลังในแนวรุก ไม่ว่าจะเป็น เบนจามิน เซสโก, เมสัน เมาท์, มาธิอุส คูนญา, ไบรอัน เอ็มบูโม่ และอามัด ดิอัลโล ที่ผลัดกันโชว์ฟอร์มเพื่อชิงตำแหน่งตัวจริง แต่ตอนนี้ความร้อนแรงของการแข่งขันได้ขยายมาถึงแนวรับ — พื้นที่ที่เคยเป็น “จุดอ่อน” ของปีศาจแดงในหลายฤดูกาลก่อน
การกลับมาของลิซานโดร มาร์ติเนซ จุดชนวนศึกชิงตัวจริง
ภายใต้ระบบ 3-4-2-1 ที่อาโมริมชื่นชอบ แมนฯ ยูไนเต็ดมีพื้นที่เพียงสามตำแหน่งสำหรับกองหลังตัวกลาง ซึ่งตอนนี้ถูกแย่งชิงอย่างหนัก
ในช่วงที่ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ยังพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บ ดูโอ้ มัทไธจ์ เดอ ลิกต์ และ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะในเกมบิ๊กแมตช์กับลิเวอร์พูล ส่วนดาวรุ่งอย่าง เลนี่ โยโร ก็สร้างความประทับใจด้วยความนิ่งเกินวัย ขณะที่ ลุค ชอว์ ก็ถูกปรับบทบาทมาเล่นในตำแหน่งแบ็กซ้ายของแนวรับสามคน
แต่เมื่อมาร์ติเนซฟิตสมบูรณ์ การแข่งขันจะเข้มข้นขึ้นทันที เพราะเขาคือหัวใจแนวรับตัวจริงที่อาโมริมรอคอย การกลับมาของเขาจะทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด มีตัวเลือกหลักถึงห้าคน ได้แก่ เดอ ลิกต์, แม็กไกวร์, โยโร, ชอว์ และมาร์ติเนซ รวมถึงตัวสำรองสารพัดประโยชน์อย่าง นูสแซร์ มาซราอุย ที่สามารถขยับมาเล่นเป็นกองหลังตัวกลางได้ในบางโอกาส
ตัวเลือกหลากหลายและความยืดหยุ่นทางแท็กติก
การมีผู้เล่นระดับนี้ทำให้อาโมริมมีอิสระในการปรับแท็กติกมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการคงแผน 3-4-2-1 เพื่อเน้นการครองบอลและการเพรสซิ่งสูง หรือปรับเป็น 4-2-3-1 หากต้องการเสริมความแข็งแกร่งในแดนกลาง
ในทางปฏิบัติ มาร์ติเนซอาจกลับมายึดตำแหน่งฝั่งซ้ายของแนวรับสามคน ส่วน เดอ ลิกต์ และ โยโร จะสลับกันเล่นตรงกลางหรือขวาตามรูปเกม ขณะที่ แม็กไกวร์ อาจกลายเป็นตัวเลือกสำคัญในเกมที่ต้องการพละกำลังและลูกกลางอากาศ
การหมุนเวียนนักเตะอย่างยืดหยุ่นนี้เป็นสิ่งที่อาโมริมถนัดมาตั้งแต่สมัยคุมสปอร์ติ้ง ลิสบอน ซึ่งช่วยให้เขาสามารถรักษาสมดุลระหว่างประสิทธิภาพและความฟิตของนักเตะตลอดฤดูกาล
โฟกัสเต็มที่ในพรีเมียร์ลีก – โอกาสทองของปีศาจแดง
ฤดูกาลนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่มีภาระในเวทียุโรป ซึ่งกลายเป็นข้อได้เปรียบสำคัญสำหรับการสร้างทีมให้มั่นคง อาโมริมสามารถใช้เวลาเตรียมทีมได้มากขึ้น มีช่วงฟื้นฟูร่างกายเพียงพอ และวางแผนละเอียดก่อนทุกแมตช์ในพรีเมียร์ลีก
อย่างไรก็ตาม การไม่มีโปรแกรมยุโรปก็หมายถึงการแข่งขันภายในทีมจะดุเดือดยิ่งกว่าเดิม ทุกคนต้องทุ่มเทเต็มร้อยในทุกการซ้อมเพื่อพิสูจน์ตัวเองต่อหน้ากุนซือ
และในสถานการณ์เช่นนี้ อาโมริมจะได้เห็นว่าใครคือกองหลังที่พร้อมที่สุด ทั้งในด้านร่างกาย จิตใจ และความเข้าใจแท็กติก เพื่อคว้าตำแหน่งตัวจริงในทีมชุดใหญ่
ความลึกของแนวรับคืออาวุธใหม่ของแมนฯ ยูไนเต็ด
สิ่งที่เคยเป็น “จุดอ่อน” ของปีศาจแดง กำลังกลายเป็น “จุดแข็ง” ที่อาโมริมสามารถใช้ต่อยอดเพื่อพาทีมกลับมาสู่เส้นทางลุ้นแชมป์อีกครั้ง
การแข่งขันระหว่าง เดอ ลิกต์, แม็กไกวร์, มาร์ติเนซ, โยโร และชอว์ ไม่เพียงทำให้แนวรับมีคุณภาพสูงขึ้น แต่ยังสร้างแรงกระตุ้นภายในทีมให้ทุกคนพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยุคใหม่ภายใต้รูเบน อาโมริม ไม่ได้พูดถึงแค่ “การสร้างเกมรุก” แต่ยังหมายถึงการสร้างแนวรับที่มั่นคง แข็งแรง และมีตัวเลือกมากพอจะรับมือทุกสถานการณ์ในพรีเมียร์ลีก
อ่านด้วย :
