เออร์ลิง ฮาแลนด์ กองหน้าดาวรุ่งของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และทีมชาติ นอร์เวย์ กลับมาเป็นที่พูดถึงในวงกว้างอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ใช่เพราะจำนวนประตูหรือฟอร์มการเล่น แต่เป็นเพราะ “นมดิบ” เพียงแก้วเดียว
ล่าสุด ฮาแลนด์เปิดตัววิดีโอแรกในช่อง YouTube ส่วนตัวของเขา ในหัวข้อ Day in the Life of a Pro Footballer ซึ่งเผยให้เห็นชีวิตประจำวันของนักเตะอาชีพแบบใกล้ชิด ตั้งแต่การฝึกซ้อม การเตรียมอาหาร จนถึงกิจวัตรสุดเซอร์ไพรส์ นั่นคือ การดื่มนมดิบที่ยังไม่ผ่านการพาสเจอร์ไรส์
วิดีโอนี้ได้รับความสนใจสูงสุดในเวลาอันรวดเร็ว มียอดวิวกว่า 5 ล้านครั้งตั้งแต่เปิดตัว ทำให้สาธารณชนอังกฤษเริ่มตั้งคำถามและถกเถียงกันอย่างกว้างขวางว่า การดื่มนมดิบแบบนี้ปลอดภัยหรือไม่ แม้สำหรับนักกีฬาระดับโลกอย่างฮาแลนด์ก็ตาม
นมดิบในสายตาฮาแลนด์: ซูเปอร์ฟู้ดเพื่อสุขภาพ
ในวิดีโอ ฮาแลนด์พาไปเยี่ยมฟาร์มโคนมที่เชสเชียร์เพื่อเก็บนมดิบด้วยตัวเอง เขาเรียกนมนี้ว่าเป็น “ซูเปอร์ฟู้ด” และอธิบายถึงประโยชน์ว่า
“นมดิบดีต่อท้อง ผิวหนัง กระดูก และกล้ามเนื้อ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ผมดื่มมันทุกวัน”
แหล่งข่าวใกล้ชิดเผยว่า ฮาแลนด์ดื่มนมดิบแก้วหนึ่งทุกเช้า และอีกแก้วหลังการฝึกซ้อม ซึ่งเป็นกิจวัตรที่เขาทำมาตั้งแต่เด็ก
ทางเทคนิคแล้ว นมดิบคือ นมที่ยังไม่ผ่านการพาสเจอร์ไรส์เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย จึงอาจมีความเสี่ยงสูงต่อการปนเปื้อนเชื้อโรค เช่น อีโคไล (E. coli) หรือ ลิสทีเรีย (Listeria) ตามคำเตือนของ Food Standards Agency (FSA) ของอังกฤษ ซึ่งระบุว่าไม่แนะนำให้เด็ก, สตรีมีครรภ์, ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำดื่ม
อย่างไรก็ตาม การจำหน่ายนมดิบในอังกฤษยังถูกกฎหมาย แต่ผู้ผลิตต้องปฏิบัติตามมาตรฐานสุขอนามัยที่เข้มงวดและมีการตรวจสอบอย่างละเอียด
เทรนด์ใหม่แต่ความเสี่ยงยังเดิม
แม้ว่านมดิบจะถูกจัดว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสี่ยง แต่ความนิยมกลับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง FSA เผยว่าผู้บริโภคหลายคนเชื่อว่านมดิบเป็นของธรรมชาติและมีประโยชน์ต่อร่างกาย แม้จะยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยันอย่างชัดเจน
ฟาร์มที่ฮาแลนด์ไปซื้อเผยว่า หลังวิดีโอของเขาเผยแพร่ มีคำสั่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมากจนพนักงานแทบทำไม่ทัน และพวกเขาต้องพิจารณาซื้อวัวเพิ่มเพื่อตอบสนองความต้องการ
คำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญโภชนาการ
แอนด์ ริชาร์ดสัน อดีตนักโภชนาการของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เตือนว่า แม้ฮาแลนด์จะได้ดื่มนมจากแหล่งคุณภาพสูงและสะอาด แต่ผู้บริโภคทั่วไปอาจเสี่ยงหากดื่มนมดิบจากแหล่งที่ไม่ได้มาตรฐาน
“คนทั่วไปมักซื้อของราคาถูกซึ่งอาจมีแบคทีเรียร้ายแรงสูง การเลียนแบบฮาแลนด์โดยไม่เข้าใจความเสี่ยง อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ”
ริชาร์ดสันยังเน้นย้ำว่า ในฐานะนักโภชนาการ การหาวิธีที่ปลอดภัยและได้คุณค่าทางโภชนาการสูงคือสิ่งสำคัญ และไม่ใช่ทุกผลิตภัณฑ์นมดิบจะถูกควบคุมอย่างเข้มงวด
นมดิบและไลฟ์สไตล์ของฮาแลนด์
กิจวัตรของฮาแลนด์ไม่หยุดเพียงแค่นมดิบ เขายังใช้เทคนิคบำบัดด้วยแสงสีแดง (Red-light therapy) และเติมไซรัปเมเปิ้ลลงในกาแฟเพื่อเพิ่มพลังงานแบบธรรมชาติ
เขาเชื่อว่าการรักษาสมดุลตามธรรมชาติและวิถีชีวิตเรียบง่ายมีประสิทธิภาพมากกว่าการควบคุมอาหารเข้มงวดที่มุ่งแต่ตัวเลขสารอาหาร
อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ความเชื่อส่วนตัวไม่สามารถแทนหลักวิทยาศาสตร์ได้
“จนถึงตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่านมดิบมีประโยชน์มากกว่านมพาสเจอร์ไรส์ สิ่งที่มีคือความเสี่ยงด้านสุขภาพหากดื่มโดยไม่ระวัง”
สรุปแล้ว แม้เออร์ลิง ฮาแลนด์จะทำให้โลกโซเชียลตื่นเต้นกับกิจวัตรการดื่มนมดิบของเขา แต่สำหรับผู้บริโภคทั่วไป การเลือกวิธีที่ปลอดภัยและมีข้อมูลรองรับถือว่าสำคัญที่สุด เพื่อรักษาสุขภาพในระยะยาว
อ่านด้วย :
 
			 
		 
			 
			