ในรอบคัดเลือกที่ผ่านมา ฮาแลนด์ลงสนาม 4 นัดและทำไปแล้ว 4 ประตู เป็นผู้เล่นที่มีอัตราการทำประตูสูงที่สุดในทีม เขาเริ่มต้นด้วยการเจาะตาข่ายมอลโดวา ตามด้วยอีกประตูในเกมกับอิสราเอล และยังมีชื่อเป็นผู้ทำประตูในเกมพบอิตาลีและเอสโตเนียอีกด้วย
จาก 13 ประตูที่นอร์เวย์ทำได้ในรอบนี้ มีถึง 4 ลูกที่มาจากฝีเท้าของฮาแลนด์ หรือคิดเป็นเกือบหนึ่งในสามของประตูทั้งหมด นี่ไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่เป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่า เขาคือหัวใจหลักของเกมรุกนอร์เวย์อย่างแท้จริง
ความสามารถของฮาแลนด์ไม่ได้จำกัดเพียงแค่การจบสกอร์เท่านั้น เขายังมีบทบาทในการดึงความสนใจจากแนวรับคู่แข่ง สร้างพื้นที่ให้เพื่อนร่วมทีมโจมตีจากแผงมิดฟิลด์ และทำให้เกมรุกของนอร์เวย์มีมิติและความหลากหลายมากขึ้น
ความสม่ำเสมอที่น่าเกรงขามของฮาแลนด์
ตั้งแต่สวมเสื้อนอร์เวย์ในระดับทีมชาติชุดใหญ่ ฮาแลนด์ทำผลงานได้อย่างเหลือเชื่อ โดยยิงไปแล้ว 42 ประตูจากการลงเล่น 43 นัด เฉลี่ยเกือบ 1 ประตูต่อเกม ซึ่งถือเป็นสถิติที่หาตัวจับยากในยุคปัจจุบัน
ในช่วง 6 นัดหลังสุดที่เขาลงเล่น ฮาแลนด์กดไปถึง 8 ประตู ทั้งแฮตทริกใส่คาซัคสถานในศึกเนชั่นส์ลีก, การยิงประตูพร้อมแอสซิสต์ในเกมเจอกับสโลวีเนีย และล่าสุดกับการโชว์ฟอร์มคมในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก การยิงต่อเนื่องเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลจากความสามารถ ความทุ่มเท และความเฉียบขาดในการเล่น
สิ่งที่ทำให้ฮาแลนด์พิเศษคือความสามารถในการใช้โอกาสอย่างมีประสิทธิภาพ เขาไม่ต้องการโอกาสมากมายในการทำประตู เพราะเมื่อบอลถึงเท้าของเขา ก็มีโอกาสสูงที่บอลจะซุกก้นตาข่ายทันที
เป้าหมายใหญ่: พานอร์เวย์กลับสู่เวทีฟุตบอลโลก
นับตั้งแต่ปี 1998 เป็นต้นมา นอร์เวย์ยังไม่สามารถกลับไปเล่นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้เลย แต่ด้วยนักเตะระดับโลกอย่างฮาแลนด์ในทีม ความหวังครั้งใหม่ก็กลับมาอีกครั้ง
ภายใต้การคุมทีมของ สตาเล โซลบัคเกน (Stale Solbakken) กุนซือจอมแท็คติก ทีมชาติชุดนี้ถูกสร้างขึ้นให้เน้นการใช้ประโยชน์จากความสามารถเฉพาะตัวของฮาแลนด์ให้เต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายบอลทะลุช่อง หรือการสร้างสรรค์โอกาสจากริมเส้น
นอกจากนี้ โซลบัคเกนยังพยายามสร้างสมดุลระหว่างเกมรุกกับเกมรับ ทำให้ทีมมีความแข็งแกร่งในทุกจุด ทั้งในแผงกลางที่แน่นหนา และแผงหลังที่เหนียวแน่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
หากยังสามารถรักษาความสม่ำเสมอในผลงานได้ต่อไป นอร์เวย์อาจจะกลายเป็นทีมม้ามืดที่พร้อมจะพลิกโฉมหน้าฟุตบอลโลกในปี 2026 และไม่ต้องสงสัยเลยว่า “เออร์ลิง ฮาแลนด์” คือคนที่จะพาทีมไปสู่เป้าหมายนั้น
อ่านด้วย :
