แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตกเป็นข่าวด้านลบอีกครั้ง หลังสร้างความฮือฮาด้วยการตกรอบศึก คาราบาว คัพ อย่างเหนือความคาดหมาย พวกเขาพ่ายแพ้ต่อกริมสบี้ ทาวน์ ทีมจากลีกทู (ดิวิชัน 4 ของอังกฤษ) ในการดวลจุดโทษสุดยาวนานที่จบลงด้วยสกอร์ 12-11 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ “ปีศาจแดง” ต้องพ่ายแพ้ต่อทีมจากดิวิชันล่างสุดของฟุตบอลอาชีพอังกฤษ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สโมสรเพิ่งผ่านฤดูกาลอันเลวร้าย หลังจบอันดับที่ 15 ของพรีเมียร์ลีกฤดูกาลก่อน และในฤดูกาลใหม่ ผลงานยังไม่น่าประทับใจนัก โดยแพ้อาร์เซน่อล และเสมอกับฟูแล่มในสองเกมแรก จึงทำให้กระแสวิจารณ์เริ่มมุ่งตรงไปที่ รูเบน อาโมริม กุนซือชาวโปรตุเกสที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง
แต่ท่ามกลางสถานการณ์กดดัน มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์ กองหลังทีมชาติเนเธอร์แลนด์ที่เพิ่งย้ายมาร่วมทีม กลับออกมาให้สัมภาษณ์ปกป้องนายใหญ่ พร้อมเปิดเผยบรรยากาศภายในห้องแต่งตัวหลังค่ำคืนอันเจ็บปวดที่สนามบลันเดล พาร์ก
ความพ่ายแพ้ที่กลายเป็นประวัติศาสตร์ด้านลบ
แมนฯ ยูไนเต็ด ลงสนามในศึกคาราบาว คัพ ด้วยความหวังจะใช้เวทีนี้เรียกความมั่นใจกลับมา แต่สิ่งที่ได้กลับเป็นฝันร้าย พวกเขาต้องเจอการต่อสู้ดุเดือดจากกริมสบี้จนลากไปถึงการดวลจุดโทษ และสุดท้ายพ่ายแพ้ด้วยสกอร์ที่แทบไม่เคยเห็นมาก่อน 12-11
ผลการแข่งขันนี้ไม่เพียงทำให้แฟนบอลทั่วโลกตกตะลึง แต่ยังถูกจารึกว่าเป็นครั้งแรกที่ “ปีศาจแดง” พ่ายต่อทีมจากลีกทูในการแข่งขันฟุตบอลถ้วยภายในประเทศ ส่งผลให้ชื่อเสียงและศักดิ์ศรีของสโมสรยักษ์ใหญ่อย่างยูไนเต็ดถูกตั้งคำถามอีกครั้ง
แรงกดดันจึงพุ่งตรงไปที่อาโมริม ซึ่งยังไม่สามารถพลิกสถานการณ์ให้ทีมกลับมาแข็งแกร่งได้ตั้งแต่เปิดฤดูกาล
เดอ ลิกต์ลุกขึ้นแสดงความเป็นผู้นำ
แม้เสียงวิจารณ์จะดังสนั่น แต่เดอ ลิกต์เลือกที่จะออกมายืนเคียงข้างผู้จัดการทีม เขายืนยันว่าความผิดพลาดครั้งนี้ควรถูกโยนให้กับนักเตะ ไม่ใช่กุนซือ
“ในฐานะนักเตะ เราต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบต่อผลงานที่เกิดขึ้น เรามองหน้ากันในห้องแต่งตัว และยอมรับว่าฟอร์มที่แสดงออกมาในสัปดาห์นี้เป็นสิ่งที่รับไม่ได้” เดอ ลิกต์กล่าวอย่างหนักแน่น
กองหลังวัย 25 ปียังเสริมว่า การโทษอาโมริมเพียงฝ่ายเดียวถือว่าไม่ยุติธรรม เพราะฟุตบอลคือเกมที่ต้องรับผิดชอบร่วมกันทั้งทีม เขายังย้ำว่าเวลานี้สิ่งสำคัญคือความสามัคคี ไม่ใช่การโยนความกดดันไปที่ใครคนใดคนหนึ่ง
“เรายังเชื่อมั่นในตัวเขา และเขาก็เชื่อมั่นในพวกเรา ดังนั้นเราต้องเดินหน้าต่อไปด้วยกัน” เดอ ลิกต์ทิ้งท้าย
ชัยชนะเล็ก ๆ ที่ปลุกความหวัง
ไม่นานหลังจากฝันร้ายที่กริมสบี้ ยูไนเต็ดสามารถเรียกขวัญกำลังใจคืนมาได้เล็กน้อย เมื่อเฉือนเอาชนะเบิร์นลีย์ไป 3-2 ในเกมพรีเมียร์ลีก ถือเป็นชัยชนะนัดแรกของพวกเขาในซีซั่นนี้
เดอ ลิกต์ยอมรับว่า เกมชนะเบิร์นลีย์เสมือนเป็น “ยารักษาใจ” ที่ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดจากการตกรอบคาราบาว คัพ และทำให้ทีมตระหนักว่ามีเพียงชัยชนะเท่านั้นที่จะช่วยปลุกพลังใจและความเชื่อมั่นกลับคืนมาได้
บททดสอบครั้งใหญ่รออยู่
แม้ยูไนเต็ดจะเก็บชัยชนะได้ แต่เส้นทางข้างหน้ายังเต็มไปด้วยอุปสรรคใหญ่ โดยหลังพักเบรกทีมชาติ พวกเขาต้องลงเล่น ศึกดาร์บี้แมตช์เมืองแมนเชสเตอร์ พบกับคู่ปรับตลอดกาลอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในวันที่ 14 กันยายน
เกมนี้จะเป็นตัวชี้วัดสำคัญว่าทีมของอาโมริมมีศักยภาพพอจะฟื้นตัวกลับมาได้จริงหรือไม่ และยังเป็นบททดสอบหัวใจของนักเตะปีศาจแดงว่าจะรวมพลังกันสู้ได้มากเพียงใดในช่วงเวลาแห่งวิกฤต
การพ่ายแพ้ต่อกริมสบี้อาจเป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ที่ไม่น่าจดจำของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่เสียงสนับสนุนจากแข้งใหม่อย่างเดอ ลิกต์สะท้อนให้เห็นว่าในห้องแต่งตัวยังคงมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน หากพวกเขาสามารถเปลี่ยนความผิดหวังให้กลายเป็นแรงผลักดันได้จริง เกมพบแมนเชสเตอร์ ซิตี้อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของฤดูกาล
อ่านด้วย :