ฤดูร้อนปี 2024 คือช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยการตัดสินใจครั้งสำคัญของสโมสรยักษ์ใหญ่แห่งฝรั่งเศสอย่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (PSG) หลังจาก คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ซูเปอร์สตาร์หมายเลขหนึ่งของทีม ตัดสินใจยุติการเดินทางกับทีมเมืองหลวง และเลือกย้ายไปร่วมทัพ เรอัล มาดริด เพื่อไล่ล่าความฝันสูงสุดในการคว้า แชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก แต่ผลลัพธ์กลับไม่ได้เป็นอย่างที่คาดไว้
เอ็มบัปเป้ล่าฝันกับมาดริด แต่โชคชะตาเล่นตลก
เอ็มบัปเป้ย้ายไปสเปนพร้อมภารกิจหนึ่งเดียวคือ “ถ้วยบิ๊กเอียร์” แต่เส้นทางกลับสะดุดกลางทาง เมื่อ เรอัล มาดริด ต้องจอดป้ายแค่รอบก่อนรองชนะเลิศหลังพ่ายให้กับ อาร์เซนอล ขณะที่ทางฝั่งเปแอสเชกลับก้าวผ่าน “ปืนใหญ่” ได้ในรอบรองฯ และปิดฉากฤดูกาลอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการ คว้าทริปเปิลแชมป์ อย่างสง่างาม
คำถามที่หลายคนสงสัย: ถ้าเอ็มบัปเป้อยู่ เปแอสเชจะยังเป็นแชมป์หรือไม่?
แม้เป็นเพียงคำถามสมมติ แต่ก็กลายเป็นหัวข้อสนทนาในวงการฟุตบอลทั่วโลก โดยเฉพาะในหมู่นักวิเคราะห์ที่ต่างหยิบประเด็นนี้ขึ้นมาถกเถียง หนึ่งในนั้นคือ สจ๊วร์ต ร็อบสัน จาก ESPN FC ซึ่งให้ความเห็นอย่างตรงไปตรงมาว่า
“ผมไม่คิดว่า PSG จะทำผลงานได้สมบูรณ์แบบขนาดนี้ถ้าเอ็มบัปเป้ยังอยู่กับทีม”
เขามองว่า แม้เอ็มบัปเป้เป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์ระดับโลก แต่การเล่นเป็นทีมของ PSG เวอร์ชัน 2024/25 มีความสมดุลและเป็นระบบกว่าช่วงที่พึ่งพาดาวเตะฝรั่งเศสรายนี้
PSG ชุดนี้ไม่มีดาวเด่น แต่เต็มไปด้วยพลังทีม
ในนัดชิงชนะเลิศที่สนาม อัลลิอันซ์ อารีน่า ณ เมืองมิวนิก PSG ระเบิดฟอร์มสุดโหด ไล่ถล่ม อินเตอร์ มิลาน ไปอย่างหมดรูปถึง 5-0 กลายเป็นค่ำคืนที่เปลี่ยนสถานะของสโมสรจากทีมที่ “ใกล้เคียงความสำเร็จ” สู่ “ยอดทีมแห่งยุโรป”
ประตูจาก อัชราฟ ฮาคิมี และ เดซิเร ดูเ เปิดฉากความโหดตั้งแต่ครึ่งแรก ก่อนจะมาได้เพิ่มอีกสามจาก ควิชา ควารัตสเคเลีย, เซนนี มายูลู และประตูที่สองของดูเในครึ่งหลัง
สิ่งที่ทำให้เปแอสเชน่ากลัวในฤดูกาลนี้ ไม่ใช่แค่การทำประตูได้มาก แต่คือ ความลงตัวในทุกตำแหน่ง, ความมุ่งมั่นของนักเตะ, และ การผสมผสานระหว่างนักเตะรุ่นใหม่กับแข้งประสบการณ์ได้อย่างกลมกลืน
ลุยส์ เอ็นริเก้ เปลี่ยนทีมให้แข็งแกร่งโดยไร้เงาเอ็มบัปเป้
เมื่อไม่มีเอ็มบัปเป้ PSG ไม่ได้ล้ม แต่กลับ ค้นพบจุดแข็งใหม่ของทีม ลุยส์ เอ็นริเก้ สร้างทีมที่ไม่อิงกับซูเปอร์สตาร์ แต่เน้น ระบบการเล่นและความเข้าใจระหว่างนักเตะ มากกว่า
เขาสร้าง “ทีมที่ทุกคนมีความสำคัญ” ไม่มีใครโดดเด่นเกินไป ไม่มีใครใหญ่กว่าสโมสร ทุกคนต่างมีหน้าที่ที่ชัดเจน ทั้งเกมรุกและเกมรับ ซึ่งนั่นทำให้ PSG กลายเป็นทีมที่น่ากลัวและมีความยืดหยุ่นมากที่สุดทีมหนึ่งในยุโรป
เมื่อไม่มีดาวนำทาง ทีมกลับเดินได้ไกลกว่าเดิม
การไม่มีเอ็มบัปเป้อาจจะดูเป็นการสูญเสียในมุมของชื่อเสียงและการตลาด แต่ในเชิงฟุตบอล มันกลับเป็น โอกาสให้ทีมพัฒนาไปในทิศทางที่มั่นคงและยั่งยืน มากขึ้น
แทนที่จะรอความมหัศจรรย์จากนักเตะเพียงคนเดียว PSG กลับสร้างความมหัศจรรย์ร่วมกันจากทุกคนในทีม ผลลัพธ์คือ แชมป์ลีก, แชมป์บอลถ้วยในประเทศ และแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้เพราะความเป็นหนึ่งเดียวของทีม
เอ็มบัปเป้และความย้อนแย้งของโชคชะตา
เอ็มบัปเป้จากไปเพื่อคว้าแชมป์ยุโรป แต่กลับต้องยืนดูทีมเก่าของตน ชูถ้วยในแบบที่เขาไม่เคยสัมผัสได้กับพวกเขา มันคือเรื่องราวที่สะท้อนถึงความย้อนแย้งของโลกฟุตบอล ที่บางครั้งการจากไปเพื่อไล่ล่าความฝัน กลับกลายเป็นการพลาดโอกาสที่แท้จริง
อ่านด้วย :