สตีฟ เคอร์ (Steve Kerr) เตรียมก้าวเข้าสู่ฤดูกาลที่ 12 ในฐานะหัวหน้าโค้ชของทีม โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส ซึ่งตลอดช่วงเวลากว่าทศวรรษที่ผ่านมา เขาได้ทำงานเคียงข้างกับซูเปอร์สตาร์การ์ดจอมแม่นอย่าง สตีเฟน เคอร์รี (Stephen Curry) จนสร้าง “ราชวงศ์” แห่งซานฟรานซิสโกขึ้นมาได้อย่างยิ่งใหญ่
ในรายการพอดแคสต์ Glue Guys เคอร์เผยความรู้สึกซาบซึ้งว่า หากไม่ได้ร่วมงานกับเคอร์รี อาชีพโค้ชของเขาอาจไม่ได้ยืนยาวอย่างที่เป็นอยู่
“ถ้าไม่มีสเตฟฟ์ ผมคงเป็นแค่โค้ช NBA ทั่วไป ทำงานได้ไม่กี่ปีก็ต้องย้ายไปทีมอื่น” เคอร์กล่าว
“ผมโชคดีมากที่ได้ทำงานกับเขา เขามอบความมั่นคงและความต่อเนื่องให้กับองค์กร ทำให้ทุกอย่างในทีมราบรื่นขึ้นมาก”
จุดเริ่มต้นยุคทองของวอร์ริเออร์ส
เคอร์เข้ารับตำแหน่งโค้ชวอร์ริเออร์สในปี 2014 แทนที่มาร์ค แจ็กสัน นับเป็นงานโค้ชครั้งแรกหลังจากเขาเลิกเล่นในปี 2003 กับซานอันโตนิโอ สเปอร์ส ขณะนั้นวอร์ริเออร์สยังเป็นเพียงทีมระดับกลางที่มีประวัติผ่านเข้ารอบเพลย์ออฟเพียงครั้งเดียวตั้งแต่ปี 1995–2012
ทีมได้ตัวสตีเฟน เคอร์รีในดราฟต์ปี 2009 อันดับ 7 แม้เขาจะคว้าตำแหน่งรองรุกกี้ยอดเยี่ยมแห่งปี 2010 แต่ก็ยังไม่สามารถยกระดับทีมได้ทันที กว่าที่ฟอร์มของเคอร์รีจะระเบิดเต็มที่ก็คือในฤดูกาลที่ 4 ของเขา
เมื่อเคอร์เข้ามา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปทันที ในฤดูกาลแรก (2014–2015) วอร์ริเออร์สคว้าแชมป์ NBA และเคอร์รีติดออลสตาร์ครั้งแรก พร้อมจบในอันดับท็อป 6 ผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) จากนั้นพวกเขายังสร้างตำนานเข้าชิง NBA ติดต่อกัน 5 ฤดูกาล และคว้าแชมป์รวม 4 ครั้งภายใน 8 ปี
ความสำเร็จและรางวัลส่วนตัวของสตีฟ เคอร์
ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยม เคอร์กลายเป็นหนึ่งในโค้ชที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ NBA เขาได้รับรางวัล Coach of the Year ในปี 2016 และทำสถิติคุมทีมชนะ 567 เกมจาก 875 เกมในรอบ 11 ปี
ไม่เพียงในระดับสโมสร เคอร์ยังพา ทีมชาติสหรัฐอเมริกา ที่มีเคอร์รีเป็นกำลังสำคัญ คว้าเหรียญทองโอลิมปิก ปารีส 2024 ต่อเนื่องจากการนำทีมของเกร็กก์ โปโปวิช ทำให้สหรัฐครองแชมป์โอลิมปิก 5 สมัยติดต่อกัน
“เขาคือสตีเฟน เคอร์รี คนเดียวในโลก เมื่ออยู่ในทีมที่เต็มไปด้วยผู้เล่นระดับตำนาน ทุกคนก็ยังยกย่องและเคารพเขา” เคอร์กล่าวถึงความประทับใจในโอลิมปิก
อนาคตที่ยังไม่ชัดเจน
ฤดูกาล 2025–2026 จะเป็นปีสุดท้ายของสัญญา 2 ปีที่เคอร์เซ็นไว้กับวอร์ริเออร์ส ขณะที่สัญญาของเคอร์รีจะอยู่ยาวถึงฤดูกาล 2026–2027 ปัจจุบันยังไม่มีความชัดเจนว่าเคอร์จะต่อสัญญาหรือไม่ แต่สิ่งที่แน่นอนคือ มิตรภาพและความร่วมมือระหว่างโค้ชและผู้เล่นคู่บุญคู่นี้ ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับ NBA ไปแล้ว
อ่านด้วย :
