ค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม 2025 กลายเป็นอีกหนึ่งค่ำคืนแห่งความทรงจำของแฟนบอลทั่วโลก เมื่อศึก เอลกลาซิโก (El Clasico) ที่สนาม ซานติอาโก เบร์นาเบว ระหว่าง เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลนา เต็มไปด้วยความดุเดือด ดราม่าต่อเนื่องตั้งแต่นาทีแรกจนจบเกม
ผลการแข่งขันจบลงด้วยชัยชนะของ เรอัล มาดริด 2-1 ในเกมนัดที่ 10 ของศึก ลาลีกา สเปน ฤดูกาล 2025/26 จากประตูของ คีเลียน เอ็มบัปเป้ (Kylian Mbappé) และ จู๊ด เบลลิงแฮม (Jude Bellingham) ขณะที่ประตูเดียวของบาร์เซโลนาได้มาจาก เฟร์มิน โลเปซ (Fermin López) ในครึ่งแรก
เกมนี้เต็มไปด้วยเหตุการณ์สุดระทึก — ทั้งจังหวะจุดโทษที่ถูกปฏิเสธโดย VAR, การตัดสินที่สร้างความโต้เถียง, รวมถึงใบแดงในช่วงทดเวลาบาดเจ็บที่ส่งให้ เปดรี (Pedri) ต้องออกจากสนามก่อนจบเกม
ด้วยชัยชนะครั้งนี้ ทำให้เรอัล มาดริดเก็บเพิ่มเป็น 27 คะแนน ครองตำแหน่งจ่าฝูงของตาราง ขณะที่บาร์เซโลนายังคงรั้งอันดับสองตามหลังอยู่ถึง 5 แต้มเต็ม
ลามีน ยามาล เจอกรรมตามสนอง หลังยั่วแฟนมาดริดก่อนเกม
ก่อนเริ่มการแข่งขัน ศูนย์รวมความสนใจกลับไม่ใช่แค่เรื่องแท็กติกของทั้งสองทีม แต่คือคำพูดของ ลามีน ยามาล (Lamine Yamal) ดาวรุ่งวัย 18 ปีของบาร์เซโลนา ที่ไปจุดประเด็นดราม่าด้วยการให้สัมภาษณ์ในรายการ Kings League ของ เคราร์ด ปิเก้ (Gerard Piqué)
ยามาลพูดถึงเรอัล มาดริดในเชิงเสียดสี เรียกพวกเขาว่า “ทีมจอมบ่นและชอบขโมยชัยชนะ” ซึ่งทำให้แฟนมาดริดจำนวนมากไม่พอใจ นอกจากนี้ เขายังโพสต์ภาพบน Instagram ส่วนตัวเมื่อวันก่อนเกม พร้อมแคปชันเยาะเย้ยแฟนมาดริดโดยแนบรูปตอนที่เขายิงประตูที่เบร์นาเบวเมื่อฤดูกาลก่อน
แต่ในที่สุด คำพูดเหล่านั้นกลับกลายเป็นบูมเมอแรงย้อนมาทำร้ายตัวเอง เมื่อเสียงโห่ดังสนั่นจากอัฒจันทร์เบร์นาเบวดังขึ้นทุกครั้งที่เขาได้บอล แฟนเจ้าบ้านไม่เพียงแต่ส่งเสียงโห่ แต่ยังปรบมือเยาะทุกครั้งที่ยามาลทำบอลหลุดหรือถูกแย่งบอลคืน
ฟอร์มหลุดยับในเกมใหญ่ เอลกลาซิโกที่ยามาลอยากลืม
ในสนาม ลามีน ยามาลไม่สามารถตอบโต้แรงกดดันจากแฟนบอลเจ้าบ้านได้เลย เขาเปิดเกมอย่างไม่น่าจดจำ เมื่อเกือบทำให้ทีมเสียจุดโทษในช่วงต้นเกม หลังบอลไปโดนแขนของเขาในเขตโทษ โชคดีที่ VAR ช่วยยกเลิกการตัดสินนั้น
ตลอด 90 นาที ยามาลไม่สามารถสร้างอันตรายให้แนวรับของมาดริดได้เลย เขามีโอกาสยิงเพียงสองครั้งโดยไม่มีลูกใดเข้ากรอบ และพยายามเลี้ยงหลบคู่แข่งถึง 8 ครั้งแต่สำเร็จเพียง 4 ครั้งเท่านั้น
อัลบาโร่ การ์เรราส (Álvaro Carreras) แบ็กซ้ายของมาดริด คือคนที่ทำให้ดาวรุ่งทีมเยือนรายนี้แทบหายไปจากเกม การ์เรราสประกบติดและปิดทางการเคลื่อนไหวของยามาลได้อยู่หมัด ทำให้เจ้าหนูวัย 18 ปีดูอึดอัดและหมดความมั่นใจไปเรื่อย ๆ
ยามาลแสดงออกถึงความหงุดหงิดหลายครั้ง ทั้งการเตะบอลทิ้งและบ่นใส่เพื่อนร่วมทีม — ภาพที่ต่างจากความมั่นใจและเฉียบคมที่แฟนบอลเคยเห็นจากเขาในศึกยูโร 2024 อย่างสิ้นเชิง
สถิติสุดน่าผิดหวังในค่ำคืนที่เบร์นาเบว
จากข้อมูลของเว็บไซต์ Fotmob, สถิติของยามาลในเกมนี้ถือว่าอยู่ในระดับต่ำที่สุดตั้งแต่เปิดฤดูกาล
เขามีโอกาสสัมผัสบอลทั้งหมด 79 ครั้ง แต่มีเพียง 3 ครั้งเท่านั้นที่เกิดขึ้นในกรอบเขตโทษคู่แข่ง
เขาส่งบอลเข้าสู่พื้นที่อันตรายได้เพียง 6 ครั้ง และไม่สามารถเปิดบอลหรือสร้างจังหวะจ่ายคีย์พาสได้เลย
-
ค่า Expected Goals (xG) อยู่ที่เพียง 0.03
-
ค่า Expected Assists (xA) เพียง 0.37
-
ผลรวมการมีส่วนร่วมเกมรุก (xG + xA) = 0.40 เท่านั้น
ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าดาวรุ่งชาวสเปนยังต้องเรียนรู้อีกมาก โดยเฉพาะเรื่องการรับมือกับแรงกดดันในเกมใหญ่แบบเอลกลาซิโก
เกมแห่งบทเรียนสำหรับลามีน ยามาล
แม้ความพ่ายแพ้ของบาร์เซโลนาจะเจ็บปวด แต่สำหรับยามาลแล้ว นี่คือบทเรียนล้ำค่าที่จะช่วยให้เขาเติบโตในฐานะนักเตะอาชีพ เสียงโห่ที่เบร์นาเบวอาจทำให้เขาสะเทือนใจ แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางการสร้างแกร่งของดาวรุ่งวัย 18 ปีรายนี้
หากยามาลเรียนรู้จากความผิดพลาด ปรับปรุงการตัดสินใจ และรักษาความนิ่งในเกมใหญ่ได้ เขายังมีอนาคตอันยิ่งใหญ่รออยู่ข้างหน้า
แต่สำหรับค่ำคืนนั้นที่ซานติอาโก เบร์นาเบว — มันคือ “คืนแห่งกรรมที่ย้อนกลับมาเล่นงานเขาเอง”
อ่านด้วย :