การแข่งขันฟุตบอลสโมสรโลก 2025 (FIFA Club World Cup 2025) กำลังจะเปิดฉากขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน 2025 เวลา 07.00 น. ตามเวลาประเทศไทย โดยคู่เปิดสนามที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากคือการพบกันระหว่าง อินเตอร์ ไมอามี ทีมเจ้าภาพจากสหรัฐอเมริกา กับ อัล อาห์ลี ยอดทีมแชมป์จากประเทศอียิปต์ ณ สนาม Hard Rock Stadium ในเมืองไมอามี การ์เดนส์ รัฐฟลอริดา
การแข่งขันครั้งนี้นับเป็นฉบับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ เนื่องจากมีสโมสรเข้าร่วมมากถึง 32 ทีมจาก 6 ทวีปทั่วโลก การดวลกันระหว่างทีมที่มีแนวทางการสร้างสโมสรต่างกันสุดขั้วอย่างอินเตอร์ ไมอามีกับอัล อาห์ลี จึงกลายเป็นไฮไลต์เปิดม่านที่ห้ามพลาด
อัล อาห์ลี : ตำนานแห่งไคโรกับภารกิจรักษาศักดิ์ศรีแอฟริกา
อัล อาห์ลี คือสโมสรที่ได้รับการขนานนามว่า “ราชาแห่งทวีปแอฟริกา” ด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและเปี่ยมด้วยความสำเร็จ พวกเขาเคยเข้าร่วมศึกฟุตบอลสโมสรโลกมาแล้วถึง 10 ครั้ง มากที่สุดในบรรดาสโมสรจากแอฟริกา และยังคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีกอียิปต์ ได้ถึง 45 สมัย
ในระดับทวีป พวกเขาครองแชมป์ แอฟริกัน แชมเปียนส์ ลีก ถึง 12 สมัย เป็นรองเพียงเรอัล มาดริด (15 สมัย) และโอ๊คแลนด์ ซิตี้ (13 สมัย) เท่านั้น นอกจากนั้น พวกเขายังเคยคว้าอันดับ 3 ในฟุตบอลสโมสรโลกมาแล้วถึง 4 ครั้ง
ฤดูกาลนี้อัล อาห์ลีมีการเปลี่ยนแปลงภายในที่น่าสนใจ โดยได้แต่งตั้ง โฆเซ่ ริเวโร่ กุนซือชาวสเปนที่เคยคุมทีม Orlando Pirates มารับหน้าที่คุมทีม แม้จะพ่ายดวลจุดโทษให้กับพาชูกาในแมตช์อุ่นเครื่อง แต่ผลงานโดยรวมก็ยังน่าจับตามอง
อินเตอร์ ไมอามี : โปรเจกต์ระดับโลก นำโดยเมสซีและเหล่าซูเปอร์สตาร์
ในฝั่งของอินเตอร์ ไมอามี สโมสรที่เพิ่งก่อตั้งเมื่อปี 2018 ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในทีมที่น่าจับตามองที่สุดในโลก ด้วยการดึงตัวซูเปอร์สตาร์ระดับโลกมารวมตัวกัน ไม่ว่าจะเป็น ลิโอเนล เมสซี, หลุยส์ ซัวเรซ, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, และ จอร์ดี อัลบา
พวกเขาได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ในฐานะแชมป์ MLS Supporters’ Shield 2024 โดยเก็บได้ 74 คะแนนจาก 34 นัด ภายใต้การคุมทีมของ ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ อินเตอร์ ไมอามีตั้งเป้าชัดเจนในการเป็นแชมป์ระดับโลกเพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของโครงการระยะยาว
แม้ในถ้วย CONCACAF Champions League พวกเขาจะตกรอบรองชนะเลิศด้วยน้ำมือของแวนคูเวอร์ ไวต์แคปส์ แต่ผลงานในลีกยังคงโดดเด่น โดยเฉพาะชัยชนะเหนือมอนทรีออลและโคลัมบัสที่ช่วยเสริมความมั่นใจได้ดี
สภาพทีมและแท็คติกก่อนเกมเปิดสนาม
อัล อาห์ลี ได้รับข่าวดีเมื่อ เอมาม อาชูร์ ฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บและพร้อมกลับมาลงสนาม ส่วนผู้เล่นใหม่อย่าง เทรเซเก้ต์ ที่ย้ายเข้ามาในเดือนมกราคม ก็น่าจะได้รับโอกาสลงเป็นตัวจริงเช่นกัน
เกมรุกของพวกเขาจะนำโดย ทาเฮอร์ โมฮาเหม็ด, อัคราฟ เบนชาร์กี้ และ เวสซัม อาบู อาลี โดยเฉพาะชื่อสุดท้ายที่ระเบิดฟอร์มยิง 8 ประตูจาก 6 นัดในรอบเพลย์ออฟ ถือเป็นภัยคุกคามที่อินเตอร์ ไมอามีต้องจับตา
ฝั่งเจ้าบ้านยังมีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนหลายตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็น จอร์ดี อัลบา, กอนซาโล ลูฮาน, ยานนิค ไบรท์, เดวิด รุยซ์ และ ดราเก้ คัลเลนเดอร์ ผู้รักษาประตูตัวจริง แต่ข่าวดีคือ ออสการ์ อุสตารี และ โตมาส อาวีเลส หายเจ็บและพร้อมกลับมาช่วยทีม
สองสไตล์ สองโลก แต่เป้าหมายเดียวกัน
การแข่งขันระหว่างอินเตอร์ ไมอามีและอัล อาห์ลีคือการปะทะกันระหว่าง “ฟุตบอลเชิงโปรเจกต์และการลงทุน” กับ “ฟุตบอลแห่งเกียรติยศและประวัติศาสตร์” เมสซีซึ่งเคยคว้าแชมป์รายการนี้มาแล้ว 3 ครั้งกับบาร์เซโลนา จะมีโอกาสลุ้นแชมป์สมัยที่ 4 และนำทีมใหม่ของเขาไปสู่จุดสูงสุดอีกครั้ง
กองกลางของอินเตอร์ ไมอามีมีทั้งประสบการณ์จาก บุสเก็ตส์ และพลังหนุ่มจาก เบนจามิน เครมาสชี ซึ่งน่าจะสามารถควบคุมจังหวะเกมได้ แต่พวกเขาจะต้องระวังการโจมตีอย่างมีระบบของอัล อาห์ลีที่ขึ้นชื่อเรื่องเกมรับเหนียวแน่นและเกมสวนกลับเฉียบคม
จุดเริ่มต้นของเส้นทางสู่ความยิ่งใหญ่
แมตช์เปิดสนามระหว่าง อินเตอร์ ไมอามี พบ อัล อาห์ลี ไม่ใช่แค่เกมธรรมดา แต่มันคือจุดเริ่มต้นของทัวร์นาเมนต์ระดับโลกที่เต็มไปด้วยความฝัน ความทะเยอทะยาน และศักดิ์ศรี ทั้งสองทีมมีเป้าหมายเดียวกันคือการเริ่มต้นทัวร์นาเมนต์ด้วยชัยชนะ และปลุกกระแสให้ฟุตบอลสโมสรโลกปีนี้กลายเป็นการแข่งขันที่น่าจดจำที่สุดในประวัติศาสตร์
อ่านด้วย :
