ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (PSG) จารึกชื่อไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ฟุตบอลยุโรป หลังกลายเป็นสโมสรแรกที่สามารถเก็บชัยชนะติดต่อกัน สามครั้งรวด ได้ในถิ่นของบาร์เซโลนา ศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2025/26
การแข่งขันอันดุเดือดจัดขึ้นในคืนวันพฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม 2025 ที่สนาม เอสตาดี โอลิมปิก หลุยส์ คอมปานีส์ สนามเหย้าชั่วคราวของเจ้าบุญทุ่ม โดยเกมจบลงด้วยสกอร์ บาร์เซโลนา 1-2 PSG
บาร์เซโลนาออกนำ แต่ PSG ฮึดกลับแซงคว้าชัย
เกมเริ่มต้นได้เพียงไม่กี่นาที แฟนบอลเจ้าถิ่นก็ได้เฮลั่นสนามเมื่อ เฟร์ราน ตอร์เรส ซัดประตูสุดคมให้บาร์ซาออกนำเร็ว 1-0 สร้างความได้เปรียบตั้งแต่ต้นเกม
แต่ความแข็งแกร่งและความมุ่งมั่นของ PSG ไม่ปล่อยให้เกมจบลงง่าย ๆ นาทีที่ 38 เซนนี มายูลู แข้งดาวรุ่งเลือดฝรั่งเศส ซัดประตูตีเสมอให้ทีมเยือนกลับมามีความหวังอีกครั้ง
และช่วงเวลาสำคัญมาถึงในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เมื่อ อัคราฟ ฮาคิมี เติมเกมรุกทางขวาก่อนเปิดบอลแม่นยำเข้ากรอบเขตโทษให้ กอนซาโล รามอส จบสกอร์อย่างเฉียบขาด ส่ง PSG บุกมาเก็บชัย 2-1 แบบสุดดราม่า
PSG ทำสถิติใหม่ที่คัมป์นูใหม่
ชัยชนะครั้งนี้ทำให้ PSG สร้างสถิติไม่ธรรมดา เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาเคยบุกชนะบาร์เซโลนาได้ถึงสองครั้ง คือ ชนะ 4-1 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2021 และ ชนะ 4-1 ในเดือนเมษายน 2024
ข้อมูลจาก Opta ระบุว่า PSG คือทีมแรกและทีมเดียวที่สามารถบุกชนะบาร์เซโลนา สามนัดติดต่อกันในบ้าน บนเวทียุโรป ซึ่งเป็นเรื่องที่แม้แต่ยักษ์ใหญ่ทีมอื่นก็ยังไม่เคยทำได้มาก่อน
นอกจากนี้ ความสำเร็จครั้งนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึง จิตใจอันแข็งแกร่งและวินัยทางแท็กติก ของลูกทีมภายใต้การคุมทัพของ หลุยส์ เอ็นริเก้
ค่ำคืนแห่งความทรงจำของหลุยส์ เอ็นริเก้
สำหรับ หลุยส์ เอ็นริเก้ เกมนี้ไม่ใช่แค่ชัยชนะทั่วไป แต่ยังเป็นคืนที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก เพราะเขาคืออดีตผู้จัดการทีมที่เคยพาบาร์ซาคว้าแชมป์ ทริปเปิลแชมป์ฤดูกาล 2014/15
ก่อนเกม เอ็นริเก้ยอมรับว่าเขายังมีความผูกพันกับสโมสรแห่งนี้ โดยกล่าวว่า “บาร์เซโลนาคือบ้านของผม เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในชีวิต ทั้งตอนเป็นนักเตะและในฐานะโค้ช”
อย่างไรก็ตาม เมื่อเสียงนกหวีดเริ่มต้นดังขึ้น เขาเลือกที่จะทำหน้าที่อย่างมืออาชีพ และผลงานที่ออกมาก็คือชัยชนะอันยิ่งใหญ่ที่ย้ำสถานะของ PSG ในฐานะ ตัวเต็งยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก
เส้นทางต่อไปของทั้งสองทีม
สำหรับ PSG ชัยชนะนัดนี้ทำให้พวกเขาขึ้นนำในกลุ่มและเพิ่มความมั่นใจเต็มเปี่ยม ก่อนลงเล่นเกมถัดไปพบกับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน วันที่ 22 ตุลาคม 2025
ขณะที่ บาร์เซโลนา ภายใต้การคุมทีมของ ฮันซี่ ฟลิค ต้องรีบแก้ไขปัญหาโดยด่วน เพราะเกมถัดไปพวกเขาจะเจอกับ โอลิมเปียกอส หากไม่สามารถเก็บแต้มได้ อาจส่งผลกระทบต่อโอกาสในการเข้ารอบน็อกเอาต์
ความพ่ายแพ้ในบ้านครั้งนี้จึงเปรียบเสมือน สัญญาณเตือนแรง ว่าบาร์ซายังต้องทำงานหนักเพื่อกลับสู่เส้นทางลุ้นแชมป์ยุโรป
อ่านด้วย :
