เรอัล มาดริด เก็บสามแต้มสำคัญในการบุกเยือน เดปอร์ติโบ อลาเบส ที่สนามเมนดิซอร์โรซา ด้วยสกอร์ 2-1 การชนะในเกมนี้มีความหมายมากต่อการรักษาระยะห่างในการแข่งขันบนหัวตาราง ลาลีกา สเปน ซีซั่นนี้
เกมเริ่มต้นด้วยการขึ้นนำของ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ที่ซัดประตูสุดสวยให้มาดริดขึ้นนำตั้งแต่ครึ่งแรก ก่อนที่เจ้าบ้านจะตามตีเสมอหลังพักครึ่ง ทำให้เกมเข้มข้นและกดดันจนถึงนาทีสุดท้าย
ประตูชัยเกิดขึ้นจาก โรดริโก้ ที่ยิงจังหวะสุดท้ายหลังได้รับแอสซิสต์จาก วินิซิอุส จูเนียร์ หลังจบเกม ซาบี อลอนโซ่ ได้ให้ความเห็นเชิงลึกทั้งเรื่องการเล่นของทีม, การตัดสินของผู้ตัดสิน และบริบทของชัยชนะท่ามกลางการขาดนักเตะหลายคน
การครองเกมตั้งแต่ต้นและการตอบสนองหลังโดนตีเสมอ
เรอัล มาดริดเริ่มเกมด้วยความเร่งรีบและกดดันตั้งแต่ช่วงต้น นำไปสู่การได้ประตูขึ้นนำจากเอ็มบัปเป้ในนาทีที่ 24 ส่งผลให้มาดริดนำจนถึงพักครึ่ง
“เรารู้สึกว่าเริ่มเกมได้ดีมาก” อลอนโซ่กล่าวถึง 15 นาทีแรกของมาดริดในครึ่งแรก
เขาเห็นว่าในช่วงต้นเกม ทีมสามารถควบคุมบอลและบีบให้อลาเบสต้องตั้งรับอยู่พื้นที่ตัวเอง การครองเกมนี้เป็นรากฐานสำคัญก่อนที่เกมจะเปิดกว้างมากขึ้นในครึ่งหลัง
“ในครึ่งหลังเราเริ่มต้นได้ดีเช่นกัน เรามีโอกาสทำประตูที่สองหลายครั้ง” อลอนโซ่กล่าวถึงช่วงต้นครึ่งหลัง ซึ่งมาดริดเกือบขยับสกอร์หนีห่าง
ประเด็นจุดโทษวินิซิอุสและความท้าทายท่ามกลางการขาดนักเตะ
อลอนโซ่ยังพูดถึงการตัดสินของผู้ตัดสินที่ไม่ให้จุดโทษจากจังหวะที่ เตนากลิอา สัมผัสตัววินิซิอุสในกรอบเขตโทษ เขาเชื่อว่าจังหวะนี้ควรได้รับการตรวจสอบซ้ำผ่าน VAR
“สำหรับผม นั่นคือลูกจุดโทษที่ชัดเจนมาก” อลอนโซ่กล่าวถึงจังหวะสัมผัสกับวินิซิอุส
เขาเผยว่ารู้สึกประหลาดใจที่ผู้ตัดสิน การ์เซีย แวร์ดูรา ไม่ได้ตรวจสอบ VAR แต่เลือกที่จะไม่จมอยู่กับเรื่องนี้มากเกินไป
“ผมแปลกใจมากที่ผู้ตัดสินไม่ดู VAR แต่เรื่องแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เราต้องเสียสมาธิ เราต้องเดินหน้าต่อไป” อลอนโซ่กล่าว
แม้จะมีประเด็นถกเถียงเรื่องการตัดสิน แต่เขายืนยันว่าทีมยังคง โฟกัสกับเกมอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะเมื่อคำนึงถึงการขาดนักเตะหลายคน ซึ่งทำให้ชัยชนะในเกมนี้มีความสำคัญยิ่งต่อการรักษาตำแหน่งบนหัวตารางลาลีกา