SBOTOP: จากเส้นทางเกือบแขวนสตั๊ด! โคลอี้ เคลลี่ พลิกวิกฤตที่แมนฯ ซิตี้ สู่ฮีโร่ยูโรหญิงอังกฤษ

SBOTOP: จากเส้นทางเกือบแขวนสตั๊ด! โคลอี้ เคลลี่ พลิกวิกฤตที่แมนฯ ซิตี้ สู่ฮีโร่ยูโรหญิงอังกฤษ

ศึกฟุตบอลหญิงชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโรหญิง 2025 ปิดฉากลงอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศที่เต็มไปด้วยดราม่า ความกดดัน และความรู้สึกที่ยากจะลืมเลือน ทีมชาติอังกฤษสามารถสร้างประวัติศาสตร์อีกครั้งด้วยการป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ หลังเอาชนะสเปนด้วยการดวลจุดโทษที่ตึงเครียด

การแข่งขันในค่ำคืนวันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม 2025 (ตามเวลาประเทศไทย) ณ สนามกลางที่อัดแน่นไปด้วยแฟนบอลทั่วทั้งยุโรป จบลงด้วยผลเสมอ 1-1 หลังจากต่อเวลาพิเศษ 120 นาที ก่อนที่ทีม “ไลโอเนสเซส” จะเฉียบคมกว่าในช่วงดวลจุดโทษ และคว้าชัยด้วยสกอร์ 3-1

เบื้องหลังความสำเร็จนี้ หนึ่งในบุคคลที่กลายเป็นจุดสนใจและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ชมทั่วโลก คือ โคลอี้ เคลลี่ (Chloe Kelly) นักเตะสาววัย 26 ปีที่ไม่ได้มีเส้นทางอาชีพโรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่กลับฟื้นตัวจากช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดในชีวิตนักฟุตบอลของเธอ และยืนหยัดขึ้นมาเป็นฮีโร่ของชาติอีกครั้ง

เส้นทางที่ไม่ง่ายในสีเสื้อแมนเชสเตอร์ ซิตี้

แม้จะเป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่เคยถูกคาดหวังว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมชาติอังกฤษ แต่เส้นทางของโคลอี้ในระดับสโมสรกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลับเต็มไปด้วยอุปสรรคและความไม่แน่นอน

ในฤดูกาลที่ผ่านมา เคลลี่ต้องเจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในอาชีพการค้าแข้งของเธอ เมื่อเธอแทบไม่มีโอกาสลงสนามในเกมสำคัญ และต้องนั่งอยู่บนม้านั่งสำรองเสียเป็นส่วนใหญ่ เธอเคยเปิดใจว่าเคย คิดที่จะเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพ ด้วยซ้ำ เพราะรู้สึกว่าความมั่นใจ ความหวัง และแรงจูงใจของตัวเองกำลังหายไปทีละนิด

แรงกดดันทั้งในสนามและนอกสนามทำให้เธอต้องเผชิญกับปัญหาทางจิตใจอย่างหนัก แต่โคลอี้ไม่ยอมแพ้ ความฝันที่จะได้กลับมาสวมเสื้อทีมชาติอังกฤษในศึกยูโรหญิง 2025 กลายเป็นเป้าหมายที่เธอใช้ยึดเหนี่ยวและผลักดันตัวเองให้กลับมายืนหยัดได้อีกครั้ง

จากตัวสำรองสู่ผู้เปลี่ยนเกมในรอบชิง

แม้จะไม่ได้เป็นตัวเลือกแรกของ ซารีนา วีกแมน กุนซือทีมชาติอังกฤษ แต่ชะตากลับพลิกผันในนัดชิงชนะเลิศ เมื่อ ลอเรน เจมส์ ได้รับบาดเจ็บในช่วงครึ่งแรก ทำให้โอกาสตกมาอยู่ในมือของโคลอี้ เคลลี่

เธอไม่ปล่อยให้ช่วงเวลานี้หลุดลอย โคลอี้ลงสนามและเปลี่ยนทิศทางเกมทันที เธอสร้างโอกาสสำคัญด้วยการแอสซิสต์ให้ อเลสเซีย รุสโซ่ ทำประตูตีเสมอในนาทีที่ 57 พร้อมกับช่วยสร้างความสมดุลให้กับเกมริมเส้นฝั่งซ้าย ซึ่งก่อนหน้านั้นเป็นจุดอ่อนของทีม

แต่ไฮไลต์ของเธออยู่ในช่วงดวลจุดโทษ – เธอรับหน้าที่ยิงจุดโทษลูกสุดท้าย ด้วยความมั่นใจและความกล้าหาญ ยิงเข้าประตูอย่างเฉียบขาด และทำให้ทีมคว้าแชมป์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

“ฉันจะไม่พลาดสองครั้ง!” คำมั่นที่เปลี่ยนอนาคต

ก่อนหน้านี้ในรอบรองชนะเลิศกับอิตาลี โคลอี้ เคลลี่เคยพลาดจุดโทษมาแล้ว ทำให้เธอต้องเผชิญกับเสียงวิจารณ์และแรงกดดันมหาศาล แต่เธอมีคำพูดหนึ่งที่ยึดมั่นมาตลอดว่า
“ฉันจะไม่พลาดสองครั้ง!”

คำนั้นกลายเป็นแรงผลักดันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดให้เธอพิสูจน์ตัวเองในเวทีที่ใหญ่ที่สุด และเธอก็ทำได้สำเร็จ

ไอคอนแห่งความอดทน และพลังใจของฟุตบอลหญิงอังกฤษ

เรื่องราวของโคลอี้ เคลลี่ กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักฟุตบอลรุ่นใหม่ และคนที่กำลังเผชิญกับความยากลำบากในชีวิต ไม่เพียงแต่เธอเป็นนักเตะที่เก่ง แต่เธอยังเป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของ ความกล้าหาญ ความอุตสาหะ และความไม่ยอมแพ้

เบื้องหลังความสำเร็จของเธอคือการสนับสนุนจากเพื่อนร่วมทีม สตาฟฟ์โค้ช ครอบครัว และแฟนบอลทั่วประเทศอังกฤษ ที่ช่วยเติมพลังให้เธอลุกขึ้นสู้แม้ในวันที่มืดมนที่สุด

จากน้ำตาสู่แชมป์

โคลอี้ เคลลี่ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ความล้มเหลวในอดีตไม่สามารถกำหนดอนาคตของเราได้ หากเราไม่ยอมแพ้ เธอกลายเป็นสัญลักษณ์ของยุคใหม่ของฟุตบอลหญิงอังกฤษ และเป็นตัวแทนของความเชื่อมั่นที่แท้จริงว่า
“ทุกความล้มเหลวคือจุดเริ่มต้นของความยิ่งใหญ่ หากเรากล้าจะเดินหน้าต่อ”

อ่านด้วย :