คีเลียน เอ็มบัปเป้ (Kylian Mbappe) กัปตันทีมชาติฝรั่งเศส ได้ออกมาเปิดเผยเป็นครั้งแรกเกี่ยวกับความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นที่เขามีกับ คริสเตียโน โรนัลโด (Cristiano Ronaldo) ตำนานลูกหนังชาวโปรตุเกส ผู้เป็นทั้งแรงบันดาลใจและที่ปรึกษาคนสำคัญในเส้นทางอาชีพของเขา
เอ็มบัปเป้เผยว่า เขากับโรนัลโดยังคงติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอ แม้ตอนนี้ทั้งคู่จะอยู่ในช่วงเวลาที่ต่างกันของเส้นทางค้าแข้ง “ผมยังคุยกับเขาอยู่ครับ เขาให้คำแนะนำดี ๆ กับผมเสมอ ทั้งเรื่องในสนามและเรื่องชีวิต เขาเป็นแบบอย่างที่ผมเคารพที่สุด” เอ็มบัปเป้กล่าวอย่างภาคภูมิ
แรงบันดาลใจที่เริ่มต้นตั้งแต่วัยเด็ก
ความผูกพันระหว่างเอ็มบัปเป้กับโรนัลโดไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน แต่เริ่มมาตั้งแต่สมัยที่เอ็มบัปเป้ยังเป็นเด็กชายที่มีความฝันจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพ เขาเคยมีรูปถ่ายตอนอายุ 13 ปีที่ได้เจอกับโรนัลโดเป็นครั้งแรก ซึ่งรูปนั้นกลายเป็นภาพแห่งความทรงจำที่มีคุณค่ามากในชีวิตของเขา
เมื่อถึงวันที่เอ็มบัปเป้ย้ายมาเล่นให้กับ เรอัล มาดริด อย่างเป็นทางการในเดือนมิถุนายน 2024 เหมือนฝันในวัยเด็กได้กลายเป็นจริง เขาโพสต์ภาพดังกล่าวลงบน Instagram พร้อมข้อความสุดซึ้งถึงไอดอลในวัยเยาว์ของเขา และไม่นาน โรนัลโดก็ได้แสดงความยินดีด้วยข้อความอบอุ่นว่า
“อดใจรอไม่ไหวที่จะเห็นนายเปล่งประกายในซานติอาโก เบร์นาเบว”
คำพูดนั้นไม่เพียงแต่สะท้อนถึงมิตรภาพระหว่างสองรุ่น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการส่งต่อยุคสมัยจากตำนานสู่ผู้สืบทอดคนใหม่แห่งโลกลูกหนัง
โรนัลโด: ไอดอล ผู้ให้คำแนะนำ และแรงผลักดัน
ในบทสัมภาษณ์พิเศษกับ Universo Valdano เอ็มบัปเป้ยกย่องโรนัลโดว่าเป็น “แรงบันดาลใจสูงสุด” และเป็นแบบอย่างในทุกมิติของการเป็นนักฟุตบอลระดับโลก “เขาคือหมายเลขหนึ่งสำหรับผม เป็นคนที่ผมใช้เป็นแบบอย่างเสมอมา โดยเฉพาะในเรื่องความมุ่งมั่นและการทุ่มเท” เอ็มบัปเป้กล่าว
อย่างไรก็ตาม เขายืนยันว่าแม้จะชื่นชมโรนัลโดเพียงใด เขาก็ยังต้องการสร้างเส้นทางของตัวเองในถิ่นซานติอาโก เบร์นาเบว “ผมไม่ต้องการเป็นเหมือนใคร ผมอยากสร้างตำนานของตัวเองในเรอัล มาดริด สร้างประวัติศาสตร์ในแบบของผม”
คำพูดดังกล่าวสะท้อนถึงความมั่นใจและความทะเยอทะยานของกัปตันทีมชาติฝรั่งเศส ที่ไม่ได้ตั้งใจเพียงแค่เป็นผู้สืบทอด แต่ต้องการเป็น “ตัวจริงในยุคใหม่ของมาดริด”
จุดเริ่มต้นอันยอดเยี่ยมกับเรอัล มาดริดและทีมชาติฝรั่งเศส
ตั้งแต่เปิดฤดูกาล 2025/26 เอ็มบัปเป้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาไม่ใช่เพียงนักเตะค่าตัวแพง แต่คือขุมพลังสำคัญของทีมราชันชุดขาว เขาทำไปแล้ว 14 ประตูจาก 10 นัดในทุกรายการ รวมถึง 5 ประตูในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก
ในศึกลา ลีกา สเปน เขายึดตำแหน่งดาวซัลโวด้วยการยิง 9 ประตู และพาเรอัล มาดริดของกุนซือ ชาบี อลอนโซ่ ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงของตาราง โดยทิ้งห่างบาร์เซโลน่าอยู่ 2 คะแนน
ผลงานร้อนแรงในระดับสโมสรยังต่อเนื่องไปถึงทีมชาติฝรั่งเศส เอ็มบัปเป้ยิงประตูเป็นเกมที่ 10 ติดต่อกันรวมทุกรายการ ช่วยพาทีม “ตราไก่” เอาชนะอาเซอร์ไบจาน 3-0 ในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2026
โรนัลโดยังไม่หยุด แม้อายุแตะหลัก 40
ขณะที่เอ็มบัปเป้กำลังสร้างชื่อในยุคของเขา โรนัลโดวัย 40 ปีก็ยังคงลงสนามอย่างแข็งแกร่งกับทีมชาติโปรตุเกส เขามีส่วนช่วยให้ทีมเอาชนะสาธารณรัฐไอร์แลนด์ 1-0 แม้จะพลาดจุดโทษไปหนึ่งครั้งก็ตาม โดยประตูชัยในเกมนั้นเป็นของ รูเบน เนเวส (Ruben Neves) ซึ่งนักเตะทั้งทีมร่วมอุทิศให้กับ ดิเอโก โชต้า (Diogo Jota) ที่เพิ่งเสียชีวิตไปไม่นานนี้
จากแฟนคลับสู่ผู้สืบทอดตำนาน
เรื่องราวของเอ็มบัปเป้และโรนัลโดคือภาพสะท้อนของแรงบันดาลใจที่กลายเป็นความจริง จากเด็กชายที่เคยมีโปสเตอร์โรนัลโดในห้องนอน สู่การได้สวมเสื้อเรอัล มาดริด และเดินตามรอยไอดอลของเขาในสนามซานติอาโก เบร์นาเบว
แต่สิ่งที่ทำให้เอ็มบัปเป้แตกต่าง คือความมุ่งมั่นจะสร้างชื่อด้วยตัวเอง — เพื่อให้วันหนึ่ง เมื่อพูดถึงราชันชุดขาว แฟนบอลทั่วโลกจะไม่เพียงแค่จดจำโรนัลโด แต่ยังจะพูดถึง “คีเลียน เอ็มบัปเป้” ในฐานะตำนานอีกคนของเรอัล มาดริดเช่นกัน
อ่านด้วย :
