SBOTOP: คำสาปหวานของกุนซือชาวอิตาเลียนที่เชลซี

SBOTOP: คำสาปหวานของกุนซือชาวอิตาเลียนที่เชลซี

สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์อันเก่าแก่ของเชลซีอาจดูเป็นเพียงสนามฟุตบอลธรรมดาสำหรับคนทั่วไป แต่ในสายตาของแฟนบอลสิงห์บลูส์แล้ว ที่แห่งนี้คือดินแดนแห่งเวทมนตร์ โดยเฉพาะเมื่อกุนซือผู้มีสายเลือดอิตาเลียนได้ก้าวขึ้นมาคุมทีม พวกเขานำพาความสำเร็จและเกียรติยศมาสู่ลอนดอนตะวันตกได้อย่างน่าเหลือเชื่อ และแนวโน้มนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มันคือ โชคชะตา ที่ถูกเขียนไว้ใต้ท้องฟ้าสแตมฟอร์ด บริดจ์

ล่าสุด เอนโซ่ มาเรสก้า ได้ก้าวขึ้นมาเป็นกุนซืออิตาเลียนคนล่าสุดที่ทำให้ชื่อของเชลซีถูกจารึกอีกครั้งบนเวทียุโรป ด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก 2025 หลังเอาชนะเรอัล เบติสได้ในค่ำคืนแห่งความทรงจำเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา

จุดเริ่มต้นแห่งความสำเร็จ: จากวิอัลลี่สู่มาเรสก้า

เส้นทางแห่งความรุ่งโรจน์นี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ จานลูก้า วิอัลลี่ เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมในช่วงปลายยุค 90 เขาพาเชลซีคว้าแชมป์ยูฟ่า คัพ วินเนอร์ส คัพ เมื่อปี 1998 ซึ่งเป็นแชมป์ยุโรปถ้วยแรกในประวัติศาสตร์สโมสร

วิอัลลี่ไม่เพียงแค่นำถ้วยรางวัลมาให้ แต่ยังปลูกฝังวัฒนธรรมผู้ชนะให้กับทีม เขาคือหนึ่งในผู้วางรากฐานของเชลซียุคใหม่ และบันไดแห่งตำนานนี้ก็ได้รับการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น

ช่วงเวลาแห่งปาฏิหาริย์: ชัยชนะในเวทียุโรปของโค้ชอิตาเลียน

เมื่อปี 2012 โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ กุนซือชั่วคราวที่ไม่มีใครคาดคิด จะพาเชลซีคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ได้อย่างเหลือเชื่อ ด้วยทีมที่ถูกมองว่าอ่อนกว่าคู่แข่ง

ต่อมาในปี 2019 เมาริซิโอ ซาร์รี่ นำทีมคว้าแชมป์ ยูโรปา ลีก ด้วยฟอร์มที่น่าประทับใจ และในปี 2025 นี้ เอนโซ่ มาเรสก้า ได้เติมเต็มความยิ่งใหญ่ของเชลซีในเวทียุโรป ด้วยการคว้าแชมป์ คอนเฟอเรนซ์ ลีก กลายเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าครบทั้ง 4 ถ้วยยุโรป

ไม่ใช่แค่ในยุโรป: กุนซืออิตาเลียนพาเชลซีครองอังกฤษ

ชื่อของ คาร์โล อันเชล็อตติ จะไม่มีวันเลือนหายจากหัวใจแฟนบอล เมื่อเขาพาเชลซีคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในปี 2010 พร้อมสถิติกดประตูได้มากที่สุดในฤดูกาลนั้น

ต่อมา อันโตนิโอ คอนเต้ มาพร้อมระบบ 3-4-3 ที่ปฏิวัติวงการฟุตบอลอังกฤษ พาเชลซีคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในปี 2017 และสร้างแนวทางการเล่นใหม่ให้กับลีก

แม้แต่ ดิ มัตเตโอ เองก็พาทีมคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ในปีเดียวกันกับที่คว้าแชมป์ยุโรป แสดงให้เห็นว่าความสำเร็จจากกุนซือชาวอิตาเลียนไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นส่วนหนึ่งของดีเอ็นเอของทีม

มาเรสก้า: ความหวังใหม่ภายใต้เงาของตำนาน

วันนี้ มาเรสก้าอาจจะยังใหม่ในบทบาทผู้จัดการทีมระดับสูง แต่เขาได้พิสูจน์ตัวเองด้วยผลงานในฤดูกาลแรก ด้วยขุมกำลังอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก เขายังสามารถพาทีมคว้าแชมป์ระดับยุโรปได้สำเร็จ

“ผมภูมิใจในนักเตะทุกคน เรากำลังเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง” มาเรสก้ากล่าวหลังเกมชิงชนะเลิศ และในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เขากำลังจะพาทีมลงทำศึก ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งเวทีพิสูจน์ศักยภาพของเขาและทีมเชลซีชุดนี้

บทสรุป: ตำนานที่ยังไม่จบ

ไม่ว่าจะเป็นยุควิอัลลี่ ดิ มัตเตโอ ซาร์รี่ คอนเต้ อันเชล็อตติ หรือมาเรสก้า ทุกคนล้วนมีส่วนร่วมในประวัติศาสตร์ความยิ่งใหญ่ของเชลซี นี่คือเรื่องราวที่สะท้อนถึงพลังแห่งวัฒนธรรม ความมุ่งมั่น และความสามารถของโค้ชชาวอิตาเลียนที่สโมสรแห่งนี้

และตราบใดที่ยังมีเสียงอิตาเลียนดังก้องอยู่ในห้องแต่งตัวของเชลซี สโมสรแห่งนี้จะยังคงเป็นหนึ่งในคู่แข่งที่อันตรายที่สุดในทุกเวที ทั้งในอังกฤษและยุโรป

อ่านด้วย :