การเปลี่ยนแปลงในเส้นทางอาชีพของ Scott McTominay กับ Napoli ยังคงเดินหน้าอย่างยิ่งใหญ่ และกำลังกลายเป็นหนึ่งในเรื่องราวที่ถูกพูดถึงมากที่สุดของวงการฟุตบอลยุโรป อดีตกองกลางสารพัดประโยชน์ของ Manchester United ไม่เพียงปรับตัวได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่ยังยกระดับตัวเองขึ้นเป็นแกนหลักของทีมจากเนเปิลส์ ทั้งในแง่ผลงาน คาแรกเตอร์ และอิทธิพลในห้องแต่งตัว
จากผู้เล่นที่เคยถูกมองว่าเป็นเพียงตัวสนับสนุนในพรีเมียร์ลีก วันนี้ แม็คโทมิเนย์ กลายเป็นสัญลักษณ์ของยุคใหม่ของ “ปาร์เตโนเป” ด้วยบุคลิกสุขุม มั่นใจ เกมรุกดุดัน และการยิงประตูสุดงดงามที่เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ
นาโปลีผงาดคว้าแชมป์ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียนา
ความสำเร็จล่าสุดของแม็คโทมิเนย์เกิดขึ้นในศึก ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียนา เมื่อ นาโปลี เอาชนะ Bologna 2-0 ในนัดชิงชนะเลิศ ซึ่งลงแข่งขันช่วงเช้ามืดของวันอังคารที่ 23 ธันวาคม 2025
สองประตูจาก David Neres เป็นตัวตัดสินเกม แต่บทบาทของแม็คโทมิเนย์ รวมถึงกองหน้าที่ยืมตัวมาจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่าง Rasmus Hojlund มีความสำคัญอย่างยิ่งในการควบคุมจังหวะและสร้างความได้เปรียบให้ทีมตลอดทั้งเกม
ภายใต้การคุมทีมของ Antonio Conte นาโปลีแสดงให้เห็นถึงวินัย แท็กติก และความแข็งแกร่งที่ชัดเจน ซึ่งแม็คโทมิเนย์ถูกมองว่าเป็นหัวใจสำคัญในระบบดังกล่าว
คอลเลกชันถ้วยรางวัลที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
แชมป์ซูเปอร์โคปปาครั้งนี้ เป็นถ้วยรางวัลใบที่สองของแม็คโทมิเนย์กับนาโปลี นับตั้งแต่ย้ายออกจากอังกฤษ และเป็นอีกหนึ่งหลักฐานที่ยืนยันว่า การตัดสินใจย้ายทีมครั้งนี้คือก้าวสำคัญที่สุดในอาชีพของเขา
ในเมืองเนเปิลส์ ชื่อของแม็คโทมิเนย์เริ่มถูกยกขึ้นสู่สถานะฮีโร่ แฟนบอลบางส่วนถึงกับวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังใบหน้าของเขาในย่านต่าง ๆ ของเมืองท่าแห่งนี้ เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องความหลงใหลในฟุตบอลและอารมณ์ร่วมที่เข้มข้น
การฉลองแชมป์ก็เป็นไปอย่างเร่าร้อนตามแบบฉบับอิตาลี เมื่อภาพของแม็คโทมิเนย์จุดซิการ์ในห้องแต่งตัวร่วมกับเพื่อนร่วมทีมอย่าง ลูกา มาเรียนุชชี และ อันโตนิโอ แวร์การา ถูกเผยแพร่ออกมา กลายเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จและความเป็น “ไอคอนใหม่” ของแฟนบอลนาโปลี
Scudetto ประวัติศาสตร์ กับบทบาทสำคัญ
ก่อนหน้าความสำเร็จในซูเปอร์โคปปา แม็คโทมิเนย์คือหนึ่งในผู้เล่นคนสำคัญที่ช่วยให้นาโปลีคว้าแชมป์ เซเรีย อา ฤดูกาล 2024/25 โดยเฉือนเอาชนะ Inter Milan เพียงหนึ่งคะแนน คว้า Scudetto ที่ถือว่าสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์สโมสร
แชมป์ลีกดังกล่าวเป็น Scudetto สมัยที่ 4 ของนาโปลี และการคว้าแชมป์ซูเปอร์โคปปาในปีเดียวกัน ทำให้สโมสรคว้าถ้วยรางวัลสองรายการในปีปฏิทินเดียว เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ยุคทองของ Diego Maradona
12 เดือนแห่งยุคทองของแม็คโทมิเนย์
สำหรับสก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ช่วงเวลา 12 เดือนหลังสุดคือช่วงที่ดีที่สุดในชีวิตนักฟุตบอลของเขา นอกจากจะคว้า Scudetto กับนาโปลีแล้ว เขายังได้รับรางวัล นักเตะยอดเยี่ยมแห่งเซเรีย อา จากผลงานยิง 13 ประตู จาก 36 นัด ซึ่งถือเป็นสถิติที่โดดเด่นสำหรับกองกลาง
ผลงานในระดับสโมสรส่งผลต่อทีมชาติอย่างชัดเจน เมื่อเดือนที่ผ่านมา แม็คโทมิเนย์พา Scotland national football team เปิดประตูสู่ฟุตบอลโลกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 28 ปี
หนึ่งในช่วงเวลาที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคือประตูจักรยานอากาศสุดสวยในเกมชนะเดนมาร์ก 4-2 ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า เขาย้อนกลับไปดูประตูดังกล่าวมากกว่า 500 ครั้ง และยังรู้สึกขนลุกทุกครั้ง
จากโอลด์ แทรฟฟอร์ด สู่เวทียุโรปชั้นนำ
ในวัย 29 ปี แม็คโทมิเนย์ยังถูกเสนอชื่อเข้าชิง บัลลงดอร์ และติดอันดับ 20 ผู้เล่นที่ได้รับคะแนนโหวตสูงสุด ซึ่งเป็นเรื่องที่แทบไม่น่าเชื่อ หากย้อนกลับไปเมื่อช่วงที่เขายังค้าแข้งในอังกฤษ
การย้ายออกจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ได้เป็นเพียงการเปลี่ยนสโมสร แต่เป็นการปลดล็อกศักยภาพที่ซ่อนอยู่ และเปิดโอกาสให้เขาแสดงตัวตนอย่างเต็มที่ในลีกที่เหมาะสมกับสไตล์การเล่นของเขา
เส้นทางกับนาโปลียังไม่สิ้นสุด
ด้วยถ้วยซูเปอร์โคปปา อิตาเลียนา ที่เพิ่งถูกเพิ่มเข้าสู่ตู้รางวัล เรื่องราวของสก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ กับนาโปลีดูเหมือนจะยังอยู่ห่างไกลจากคำว่า “จุดสูงสุด”
แฟนบอลในเนเปิลส์ต่างหวังว่า ช่วงเวลาแห่งความรุ่งโรจน์นี้จะยังคงดำเนินต่อไป และชื่อของแม็คโทมิเนย์ จะถูกจารึกเคียงข้างตำนานของสโมสรในอีกหลายปีข้างหน้า