การเริ่มต้นเส้นทางใหม่ของ เบนจามิน เซสโก้ ในฐานะกองหน้าตัวความหวังของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับไม่ราบรื่นอย่างที่หลายคนคาดหวัง แม้จะย้ายมาพร้อมค่าตัวมหาศาลถึง 75 ล้านปอนด์ แต่จนถึงตอนนี้ ดาวยิงวัยเพียง 22 ปียังไม่สามารถพิสูจน์คุณค่าของตัวเองในสนามได้
ความคาดหวังสูงจากค่าตัวมหาศาล
เมื่อมีการประกาศคว้าตัวเซสโก้เข้าสู่ทีม “ปีศาจแดง” ในช่วงซัมเมอร์ ความคาดหวังของแฟนบอลก็พุ่งทะยานทันที หลายฝ่ายเชื่อว่าเขาจะเป็นกำลังสำคัญที่จะยกระดับแนวรุกให้กลับมาน่ากลัวอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เส้นทางของเขาในพรีเมียร์ลีกไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิด เขายังไม่เคยได้โอกาสออกสตาร์ทเป็นตัวจริง และยังไม่สามารถยิงประตูจากจังหวะโอเพ่นเพลย์ได้เลย
คำเตือนจากตำนานพรีเมียร์ลีก
หนึ่งในเสียงวิจารณ์ที่ดังที่สุดมาจาก จิมมี่ ฟลอยด์ ฮัสเซลเบงค์ อดีตกองหน้าระดับตำนานของพรีเมียร์ลีก ที่มองว่าเซสโก้ต้องรีบเร่งปรับตัวโดยด่วน เขาย้ำว่าการเป็นนักเตะค่าตัวแพงไม่สามารถรอเวลาได้นาน เพราะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต้องการผู้เล่นที่พร้อมสร้างความแตกต่างในทันที
“ถ้าคุณถูกซื้อมาในราคา 75 ล้านปอนด์ คุณต้องพร้อมที่จะลงเล่นและสร้างผลงาน” ฮัสเซลเบงค์กล่าวกับสื่ออังกฤษ “ฟุตบอลไม่รอใคร และเขาจำเป็นต้องปรับตัวให้เร็วที่สุด”
ความผิดหวังในเกมคาราบาว คัพ
เกมที่สร้างแรงกดดันมหาศาลให้กับเซสโก้คือการพ่ายแพ้ต่อทีมเล็กอย่าง กริมสบี้ ในศึกคาราบาว คัพ หลายฝ่ายเชื่อว่านี่ควรเป็นโอกาสทองที่กองหน้ารายนี้จะได้พิสูจน์ตัวเองด้วยการยิงประตูแรก แต่เขากลับไม่สามารถทำได้ แถมยังต้องเผชิญแรงกดดันเพิ่มหลังถูกเลือกเป็นคนยิงจุดโทษลำดับท้าย ๆ ซึ่งทำให้ถูกมองว่าขาดความมั่นใจ
คำวิจารณ์รุนแรงจากอดีตนักเตะ
ไม่เพียงแค่ฮัสเซลเบงค์เท่านั้นที่ออกมาเตือน เซสโก้ยังถูก แก็บบี้ อักบอนลาฮอร์ อดีตกองหน้าพรีเมียร์ลีกอีกคน จวกอย่างรุนแรงถึงขั้นเรียกว่า “ขี้ขลาด” เพราะแสดงท่าทีลังเลในช่วงการดวลจุดโทษกับกริมสบี้ คำพูดนี้ยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้กับดาวรุ่งรายนี้มากขึ้นไปอีก
ทางแยกของกองหน้าอนาคตไกล
สำหรับสโมสรใหญ่อย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ความอดทนจากแฟนบอลและสื่อมีอยู่อย่างจำกัด เซสโก้จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพิสูจน์ตัวเองในเกมที่กำลังจะมาถึง การเรียกความมั่นใจกลับมาและยิงประตูแรกได้ จะเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้เขาหลุดพ้นจากแรงกดดันมหาศาล
หากเขาสามารถกลับมาแสดงศักยภาพที่แท้จริงได้ เซสโก้จะไม่เพียงช่วยยกระดับแนวรุกของทีม แต่ยังสามารถเปลี่ยนเสียงวิจารณ์ให้กลายเป็นการยกย่องได้เช่นกัน
อ่านด้วย :
