แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงไม่สามารถกลับคืนสู่เส้นทางแห่งความสำเร็จได้ หลังจากพ่ายให้กับท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ไปด้วยสกอร์ 1-0 ในนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ฤดูกาล 2024/2025 เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา (ตามเวลาประเทศไทย)
ประตูชัยของเบรนแนน จอห์นสัน ในนาทีที่ 42 ของเกม ส่งให้ “ไก่เดือยทอง” คว้าแชมป์ยุโรปใบนี้ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี ขณะที่ “ปีศาจแดง” ต้องกลับบ้านมือเปล่าอีกครั้ง พร้อมกับคำถามมากมายเกี่ยวกับอนาคตของทีมและผู้จัดการอย่างรูเบน อาโมริม
ฟอร์มแมนยูสุดย่ำแย่ – อันดับในพรีเมียร์ลีกน่าเป็นห่วง
นอกจากความพ่ายแพ้ในรอบชิง ยูโรป้า ลีก แล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด ยังจมอยู่ในอันดับที่ 16 ของพรีเมียร์ลีกอังกฤษในฤดูกาลเดียวกัน ซึ่งถือว่าเป็นผลงานที่ต่ำกว่ามาตรฐานของสโมสรที่เคยเป็นเจ้าของแชมป์พรีเมียร์ลีกหลายสมัย
แฟนบอลต่างผิดหวังกับแนวทางการเล่นที่ดูไร้ทิศทาง โดยเฉพาะในช่วงท้ายเกมที่ทีมเลือกใช้การโยนบอลยาวไปให้แฮร์รี แม็กไกวร์ หวังลุ้นประตูแบบไม่มีแผนสำรอง
อลัน เชียเรอร์ เดือด! วิจารณ์แมนยู “น่าอับอาย”
ตำนานกองหน้าทีมชาติอังกฤษ อลัน เชียเรอร์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นกูรูฟุตบอลในรายการ The Rest is Football ไม่อาจเก็บความไม่พอใจไว้ได้ หลังเห็นฟอร์มการเล่นของแมนยู โดยเขาระบุว่าทีมเล่นได้ “น่าอับอาย” ทั้งในรอบรองชนะเลิศและรอบชิง
“มันเป็นเกมที่แย่มาก ระดับคุณภาพต่ำสุด ๆ แต่สเปอร์สไม่สนใจหรอก พวกเขาได้ถ้วย!” – เชียเรอร์
“แมนยูหวังพึ่งแม็กไกวร์ กองหลังสูง 6 ฟุต 5 นิ้วให้เล่นเป็นกองหน้าในช่วงท้ายเกม มันคือความสิ้นหวังอย่างแท้จริง”
เขายังวิจารณ์รูเบน อาโมริม ว่าเลือกแทคติกผิดอย่างแรงในช่วงท้ายเกม ซึ่งเป็นภาพสะท้อนถึงทีมที่หมดความคิดสร้างสรรค์
ปัญหาภายในแมนยูยังไม่จบ
เชียเรอร์ยังกล่าวต่อไปว่า ปัญหาของแมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้อยู่แค่ในสนามเท่านั้น แต่รวมไปถึงการบริหารงานในระดับผู้บริหาร ที่ไม่มีวิสัยทัศน์และเลือกนักเตะผิดพลาดหลายราย
เขาตั้งคำถามว่า สโมสรจะดึงดูดนักเตะระดับโลกได้อย่างไร ในเมื่อไม่มีสิทธิ์ไปเล่นยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก และการเงินก็ไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนในอดีต
“พวกเขาล้าหลังทั้งในสนามและนอกสนาม ผมไม่รู้จริง ๆ ว่าจะหาทางกลับมาสู่จุดสูงสุดได้อย่างไร”
“ใครจะอยากย้ายมาร่วมทีมในสถานการณ์แบบนี้? มันอาจต้องใช้เวลานานมาก – หรืออาจไม่มีวันกลับมาเลยก็ได้”
อาโมริมยังไม่ยอมแพ้ – ขอสู้ต่อเพื่ออนาคต
แม้จะถูกวิจารณ์อย่างหนัก รูเบน อาโมริม ผู้จัดการทีมชาวโปรตุเกส ยังคงเชื่อมั่นในตัวเอง เขายืนยันว่าเขายังเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตำแหน่งนี้ และจะไม่ลาออก
“ผมมั่นใจว่าผมยังเป็นคนที่ใช่ยิ่งกว่าเมื่อวันแรกที่เข้ามา”
อาโมริมยอมรับว่าทีมของเขาเสียการควบคุมหลังเสียประตู แต่เชื่อว่าครึ่งหลังแมนยูเล่นได้ดีกว่า มีโอกาสสร้างสรรค์เกมบุก และใกล้เคียงกับการตีเสมอ
“เราครองเกมในครึ่งหลัง เราสร้างโอกาสได้ แต่เราทำประตูไม่ได้”
เขายังกล่าวเพิ่มเติมว่าเข้าใจดีถึงแรงกดดันที่แฟนบอลจะมีในฤดูกาลหน้า แต่จะไม่ถอย และพร้อมทุ่มเทเต็มที่หากได้รับโอกาสต่อไปจากบอร์ดบริหาร
บทสรุป
ความพ่ายแพ้ในนัดชิงชนะเลิศยูโรป้า ลีก ไม่ใช่แค่ความล้มเหลวในถ้วยใบเดียว แต่เป็นสัญญาณเตือนถึงวิกฤติที่ลึกกว่านั้นในสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทั้งในด้านแทคติก ความพร้อมของนักเตะ และโครงสร้างของสโมสร
หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างจริงจังในเร็ววัน เส้นทางกลับสู่ความยิ่งใหญ่ของแมนยูอาจเป็นเพียงฝันลม ๆ แล้ง ๆ ที่ไม่มีวันเป็นจริง
อ่านด้วย :