การตัดสินใจของฟีฟ่าในการ “ผ่อนปรนโทษแบน” ให้กับคริสเตียโน โรนัลโด ก่อนการแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 ได้กลายเป็นประเด็นร้อนในวงการฟุตบอลโลกทันที หลายประเทศที่มีโอกาสจับสลากอยู่กลุ่มเดียวกับโปรตุเกส มีรายงานว่าอาจพิจารณายื่นเรื่องคัดค้านหรือแม้กระทั่งฟ้องร้องอย่างเป็นทางการต่อฟีฟ่า
เดิมที โรนัลโดต้องถูกแบน 3 นัดจากเหตุการณ์ใช้ศอกใส่ ดารา โอ’เชีย ซึ่งถูกจัดเป็นการกระทำรุนแรง ทั้งยังได้เริ่มชดใช้โทษแบนไปแล้ว 1 นัดในเกมคัดเลือกที่โปรตุเกสถล่มอาร์เมเนีย 9-1 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ฟีฟ่าได้สร้างความประหลาดใจด้วยการประกาศว่า “สองในสาม” ของโทษแบนที่เหลือจะถูกระงับไว้ก่อนเป็นเวลา 1 ปีภายใต้เงื่อนไขภาคทัณฑ์ นั่นหมายความว่า ซูเปอร์สตาร์วัย 40 ปีรายนี้ยังสามารถลงเล่นเกมแรกของรอบแบ่งกลุ่มฟุตบอลโลกได้ตามปกติ ตราบใดที่เขาไม่ก่อเหตุความรุนแรงลักษณะเดิมอีกในช่วงเวลาที่กำหนด
ชาติคู่แข่งอาจยื่นอุทธรณ์ต่อศาลกีฬาโลก (CAS)
รายงานจาก Daily Mail ระบุว่า การลดโทษครั้งนี้อาจสร้างความไม่พอใจให้กับทีมชาติที่จะต้องเผชิญหน้ากับโปรตุเกสในรอบแบ่งกลุ่ม พวกเขามีสิทธิยื่นอุทธรณ์ต่อ Court of Arbitration for Sport (CAS) ซึ่งเป็นองค์กรอนุญาโตตุลาการด้านกีฬา ที่มีอำนาจตรวจสอบและยกเลิกการตัดสินของฟีฟ่า หากพบว่ามีข้อผิดพลาดทางกระบวนการหรือขัดต่อระเบียบวินัยขององค์กร
กรณีดังกล่าวถือว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในบริบทของฟุตบอลโลก แต่ก็ไม่ได้ไร้ตัวอย่างเทียบเคียงเสียทีเดียว ในอดีต ลอร็องต์ กอสเชียลนี ของฝรั่งเศส เคยถูกแบนเพียงนัดเดียวหลังเหตุการณ์ในเพลย์ออฟปี 2014 หรือในปี 2018 มาริโอ มานด์ซูคิช ของโครเอเชีย ก็สามารถกลับมาลงสนามในเกมที่สองของรอบแบ่งกลุ่มและยิงได้ถึงสองประตู
พื้นฐานทางกฎหมาย: มาตรา 27 แห่งกฎว่าด้วยวินัยของฟีฟ่า
สำนักข่าว BBC Sport รายงานว่า มาตรา 27 ของ FIFA Disciplinary Code เปิดช่องให้ฟีฟ่าสามารถ “ระงับโทษของนักเตะทั้งหมดหรือบางส่วน” ได้ในช่วงระยะเวลาภาคทัณฑ์ 1–4 ปี ซึ่งเป็นกฎที่ใช้เป็นฐานในการให้ทางรอดแก่โรนัลโด
แต่แหล่งข่าวจาก Daily Mail ระบุว่า หากประเทศใดต้องการฟ้องร้อง พวกเขาต้องพิสูจน์ว่าได้ “รับความเสียหายโดยตรง” จากการตัดสินใจดังกล่าว และต้องแสดงให้เห็นว่า การคัดค้านของตนมี “ผลประโยชน์ทางกฎหมายที่ชัดเจนและมีเหตุผลเพียงพอ”
จนถึงตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าประเทศคู่แข่งจะสามารถพิสูจน์ความเสียหายดังกล่าวได้อย่างไร ทว่าบรรดาผู้เชี่ยวชาญมองว่า ประเด็นนี้จะยิ่งทำให้การจับสลากแบ่งกลุ่มฟุตบอลโลกซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 5 ธันวาคม กลายเป็นหนึ่งในพิธีที่ตึงเครียดที่สุดในประวัติศาสตร์
อ่านด้วย :