อองตวน กรีซมันน์ ศูนย์หน้าจอมเทคนิคของแอตเลติโก มาดริด กลายเป็นประเด็นร้อนในวงการฟุตบอลสเปน หลังเขาตอบคำถามเกี่ยวกับ นักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลของลาลีกา ด้วยคำตอบที่ทำเอาแฟนบอลทั่วโลกประหลาดใจ เพราะชื่อที่เขาเลือกไม่ใช่สองซูเปอร์สตาร์ผู้ครองยุคอย่าง ลิโอเนล เมสซี หรือ คริสเตียโน โรนัลโด แต่กลับเป็นตำนานระดับโลกผู้ปฏิวัติศาสตร์ฟุตบอลสมัยใหม่
กรีซมันน์ อายุ 34 ปี ถือเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของลาลีกา โดยตลอดเส้นทางอาชีพ เขาลงสนามในลีกสเปนมากถึง 546 นัด ยิงไป 202 ประตู และทำ 97 แอสซิสต์ ตัวเลขเหล่านี้ยืนยันได้ชัดเจนว่าเขาเผชิญหน้ากับผู้เล่นระดับท็อปของยุคต่าง ๆ มานานกว่า 15 ปี ตั้งแต่เมสซี โรนัลโด ไปจนถึงรุ่นใหม่อย่างคิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้
คำตอบที่ไม่มีใครคาด — กรีซมันน์เลือกใครเป็นสุดยอดแข้งลาลีกา?
ในการให้สัมภาษณ์พิเศษกับ ESPN กรีซมันน์ได้รับคำถามให้เลือกนักเตะที่ดีที่สุดในหมวดหมู่ต่าง ๆ ซึ่งเขาตอบอย่างมั่นใจและชัดเจนในทุกข้อ
-
ดิดิเยร์ ดร็อกบา – กองหน้าจบสกอร์ดีที่สุด
-
อันเดรส อิเนียสต้า – เพลย์เมกเกอร์ดีที่สุด
-
มาร์เซล เดอไซญี – กองหลังที่แข็งแกร่งที่สุด
-
จานลุยจิ บุฟฟ่อน – ผู้รักษาประตูดีที่สุด
-
โรนัลดินโญ – นักเตะเลี้ยงบอลดีที่สุด
-
ซีเนอดีน ซีดาน – นักเตะที่มีออร่าเฉพาะตัวชัดเจนที่สุด
เมื่อถูกถามว่าใครคือผู้เล่น ที่ดีที่สุดตลอดกาลของโลกฟุตบอล กรีซมันน์ตอบตามคาดว่า เมสซีและโรนัลโด คือสองสุดยอดที่ไม่มีใครเทียบได้
แต่เมื่อคำถามถูกจำกัดให้เฉพาะ ลาลีกา สเปน สิ่งที่หลายคนไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น—เขาไม่เลือกทั้งเมสซีหรือโรนัลโด หากแต่เลือก โยฮัน ครัฟฟ์ (Johan Cruyff) ตำนานผู้ปลุกปั้นอัตลักษณ์ของบาร์เซโลนา และเป็นหนึ่งในบุคคลที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล
เหตุผลที่ครัฟฟ์คือคำตอบ — ตำนานผู้เขียนนิยามใหม่ให้ลาลีกา
ครัฟฟ์ถูกมองว่าเป็นสถาปนิกแห่ง “Total Football” หรือฟุตบอลแบบบูรณาการ ซึ่งเปลี่ยนวิธีคิดและวิธีเล่นของทั้งบาร์เซโลนาและลาลีกาไปอย่างสิ้นเชิง เขาอยู่กับบาร์เซโลนาในช่วงปี 1973–1978 และสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้ทีม
ตลอดการเล่นในสีเสื้อบาร์ซา ครัฟฟ์ลงสนาม 180 นัด ทำได้ 60 ประตู และ 28 แอสซิสต์ พร้อมคว้าแชมป์ลาลีกา, โกปา เดล เรย์ รวมถึงรางวัลบัลลงดอร์ 2 สมัยในปี 1973 และ 1974
แม้ผลงานตอนเป็นนักเตะจะยอดเยี่ยม แต่สิ่งที่ทำให้เขากลายเป็นตำนานเหนือยุคสมัยคือ บทบาทการเป็นผู้จัดการทีมบาร์เซโลนา ในช่วงปี 1988–1996
ยุคทอง “Dream Team” – มรดกที่เปลี่ยนประวัติศาสตร์สโมสร
ครัฟฟ์คือผู้สร้าง “Dream Team” อันโด่งดังของบาร์เซโลนา ซึ่งพาทีมคว้าแชมป์ลาลีกา 4 สมัยติดต่อกัน พร้อมกับโทรฟี่ European Cup 1991/92 นี่คือยุคที่วางรากฐานของระบบ 4-3-3, การครองบอล และการเพรสซิ่งอันเป็นเอกลักษณ์ของบาร์ซาในปัจจุบัน
อิทธิพลของเขายังส่งต่อไปสู่ผู้เล่นและโค้ชระดับตำนานอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอลา และ ลิโอเนล เมสซี ซึ่งต่างก็ออกมายอมรับว่าไม่มีใครมีอิทธิพลต่อสโมสรและฟุตบอลโลกมากเท่าโยฮัน ครัฟฟ์
อิทธิพลที่ไม่มีใครเทียบ – เสียงจากเมสซีและกวาร์ดิโอลา
หลังครัฟฟ์เสียชีวิตในปี 2016 เมสซีถึงกับออกมาโพสต์ว่า “เขาคือตำนานผู้ไม่มีวันลืมเลือน” ขณะที่กวาร์ดิโอลาให้สัมภาษณ์อย่างลึกซึ้งว่า ครัฟฟ์คือผู้เปิดโลกความคิดฟุตบอลของเขา
กวาร์ดิโอลากล่าวถึงครัฟฟ์ว่า:
“เขาทำให้เรารู้จักฟุตบอลในอีกมุมหนึ่ง เขาเปิดตาเราเสมอ เขาสอนว่าหากเชื่อในสัญชาตญาณของตัวเอง คุณจะไม่ผิดพลาด คุณนึกว่าคุณควบคุมเกมได้ด้วยคำสั่งหรือแท็กติก แต่นั่นทำไม่ได้ เว้นแต่คุณคือเมสซี และโยฮันช่วยให้เราทำมันได้”
คำพูดนี้สะท้อนถึงมรดกทางฟุตบอลที่ครัฟฟ์ทิ้งไว้ โดยไม่เพียงแต่เปลี่ยนบาร์เซโลนา แต่ยังเปลี่ยนความหมายของฟุตบอลสมัยใหม่ไปตลอดกาล
สรุป: ทำไมกรีซมันน์ถึงเลือกครัฟฟ์?
แม้เมสซีและโรนัลโดจะเป็นสองนักเตะผลลัพธ์ระดับมหัศจรรย์ แต่เหตุผลที่กรีซมันน์เลือกครัฟฟ์ในฐานะนักเตะลาลีกาที่ดีที่สุดตลอดกาล คือเพราะ อิทธิพล และ มรดกฟุตบอล ของเขาที่ยาวนานและลึกซึ้งกว่าเพียงสถิติและจำนวนประตู
ครัฟฟ์ไม่ใช่แค่ผู้เล่นเก่ง แต่เป็นผู้สร้างแนวคิด เปลี่ยนสไตล์การเล่น และกำหนดทิศทางของสโมสรหนึ่งในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก จึงไม่น่าแปลกที่กรีซมันน์จะยกเขาขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งเหนือสองยอดแข้งแห่งยุคอย่างเมสซีและโรนัลโด