อินโดนีเซียกับกลยุทธ์โอนสัญชาติเพื่อไปเล่นฟุตบอลโลก

อินโดนีเซียกับกลยุทธ์โอนสัญชาติเพื่อไปเล่นฟุตบอลโลก

อินโดนีเซีย ได้สร้างความประหลาดใจในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก 2026 โซนเอเชีย ด้วยการบุกไปเสมอกับซาอุดิอาระเบียในนัดแรกและคว้า 1 แต้มที่มีค่ากลับบ้านจากเจดดาห์ นี่ถือเป็นความสำเร็จที่โดดเด่นสำหรับทีมจากอาเซียน เนื่องจากที่ผ่านมาทีมอาเซียนมักจะแพ้ทุกครั้งเมื่อมาเยือนซาอุดิอาระเบียในเกมทางการ

ในอดีต ทีมชาติไทยเคยเกือบทำได้ในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกปี 2018 โดยจบเกมที่ใกล้เคียง 0-0 แต่สุดท้ายกลับพ่ายแพ้จากจุดโทษในช่วงท้ายเกม อย่างไรก็ตาม อินโดนีเซียได้ปลดล็อกให้ทีมจากอาเซียนสามารถรู้จักคำว่า “ไม่แพ้” บนสนามของซาอุดิอาระเบียได้ในที่สุด

ความสำเร็จครั้งนี้กระตุ้นให้เกิดการตั้งคำถามว่าทำไมอินโดนีเซียถึงพัฒนาอย่างรวดเร็วในระยะเวลาไม่นาน โดยย้อนกลับไปเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกปี 2022 อินโดนีเซียยังคงเป็นทีมแจกแต้ม ตกรอบแรกด้วยสถิติที่ไม่น่าประทับใจ ชนะ 0 เสมอ 1 แพ้ 7 และโดนยิงถึง 22 ประตู แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงอินโดนีเซียเกิดขึ้นในปี 2023 เมื่อพวกเขาเปลี่ยนประธานสมาคมฟุตบอลเป็น เอริค ทอเฮียร์ นักธุรกิจที่เคยเป็นเจ้าของทีมอินเตอร์ มิลาน

กลยุทธ์ใหม่: การโอนสัญชาตินักเตะ

เอริค ทอเฮียร์นำแนวคิดที่ไม่เหมือนใครมาใช้ นั่นคือการดึงนักเตะเชื้อสายอินโดนีเซีย-ดัตช์จากเนเธอร์แลนด์ ที่ไม่ได้รับโอกาสจากทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ให้กลับมาเล่นให้กับทีมชาติอินโดนีเซีย โดยใช้ความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์ระหว่างสองประเทศ ซึ่งอินโดนีเซียเคยเป็นเมืองขึ้นของเนเธอร์แลนด์มาก่อน

กลยุทธ์นี้ได้ผลสำเร็จ เพราะมีประชากรเชื้อสายอินโดนีเซีย-ดัตช์ในเนเธอร์แลนด์ถึง 1.8 ล้านคน และในจำนวนนี้มีไม่น้อยที่เป็นนักฟุตบอลระดับมืออาชีพ เอริคได้ใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ในการดึงนักเตะเหล่านี้ที่ไม่สามารถติดทีมชาติเนเธอร์แลนด์ มาร่วมทีมอินโดนีเซีย เพื่อเพิ่มคุณภาพทีมให้ทัดเทียมกับทีมใหญ่ในเอเชีย โดยไม่ต้องเสียเวลาพัฒนานักเตะท้องถิ่นเพียงอย่างเดียว

กระแสการโอนสัญชาติและผลกระทบ

การโอนสัญชาติไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการฟุตบอล แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้รับการยอมรับ ตัวอย่างเช่นในเกาหลีใต้เคยมีแผนโอนสัญชาตินักเตะบราซิล เอนินโญ่ แต่ถูกคัดค้านจากแฟนบอล อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีของอินโดนีเซีย นักเตะที่ถูกโอนสัญชาติมักมีเชื้อสายอินโดนีเซีย ทำให้แฟนบอลพอจะยอมรับได้

แม้ว่ากลยุทธ์นี้จะช่วยให้ทีมชาติแข็งแกร่งขึ้นในระยะสั้น แต่ก็มีความกังวลว่าอาจส่งผลกระทบต่อการพัฒนานักเตะในประเทศในระยะยาว และอาจทำให้ความนิยมในฟุตบอลลีกภายในประเทศลดลง

ผลลัพธ์และอนาคต

แม้ว่ากลยุทธ์นี้จะสร้างความสำเร็จให้ทีมชาติในปัจจุบัน แต่คำถามคือความยั่งยืนของมัน เนื่องจากอินโดนีเซียยังคงต้องพึ่งพานักเตะที่พัฒนาในระบบของเนเธอร์แลนด์ การพัฒนาเยาวชนในประเทศอาจถูกละเลยเพราะงบประมาณถูกนำไปใช้ในแผนโอนสัญชาติมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม สำหรับแฟนบอลอินโดนีเซียในตอนนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความสำเร็จในสนาม ทีมชาติที่เสริมด้วยนักเตะอินโด-ดัตช์ทำให้พวกเขามีโอกาสลุ้นไปฟุตบอลโลก 2026 มากขึ้น โดยในเกมเสมอซาอุดิอาระเบีย อินโดนีเซียใช้ผู้เล่นที่เกิดในเนเธอร์แลนด์ถึง 8 คนจาก 11 คนในรายชื่อผู้เล่นตัวจริง

อินโดนีเซียอาจไม่ต้องการแชมป์ AFF เพื่อยืนยันสถานะทีมที่ดีที่สุดในอาเซียน แต่หากพวกเขาสามารถเข้าถึงฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้ ก็จะเป็นการยกระดับฟุตบอลของประเทศอย่างแท้จริง