ดานี โอลโม เพลย์เมคเกอร์ที่ร้อนแรงที่สุดในตลาด2024

ดานี โอลโม เพลย์เมคเกอร์ที่ร้อนแรงที่สุดในตลาด2024

วันนี้ SBOTOP จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับหนึ่งในนักเตะที่ไม่สามารถมองข้ามได้ในทีมชาติสเปนภายใต้การคุมทีมของ หลุยส์ เด ลา ฟูเอนเต้ คือ ดานี โอลโม กองหน้าและเพลย์เมคเกอร์ของทีม ผลงานของเขาโดดเด่นตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มไปจนถึงรอบรองชนะเลิศของยูโร 2024 ที่ผ่านมา

เบื้องหลังความสำเร็จนี้มาจากการฝึกฝนที่ศูนย์ฝึกเยาวชน ลามาเซีย ของบาร์เซโลนา ซึ่งเป็นที่เดียวกับที่สร้างนักเตะระดับตำนานมากมาย

จากสถิติ โอลโมทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่ออยู่ในทีมเยาวชนของบาร์เซโลนา แต่ทำไมเขาจึงไม่ได้รับโอกาสขึ้นทีมชุดใหญ่จนต้องย้ายออกจากทีม? มาติดตามเรื่องราวทั้งหมดกัน

เก่งตั้งแต่เด็ก

ดานี โอลโม เริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุยังน้อย โดยได้รับการสนับสนุนจากพ่อของเขา มิเกล โค้ชของทีม เตร์เรสซา โอลโมแสดงศักยภาพตั้งแต่นั้นมา จนได้เข้าร่วมทีมเยาวชนของเอสปันญอล และต่อมาย้ายมาอยู่กับลามาเซียในปี 2007 เมื่ออายุได้ 9 ขวบ

ที่ลามาเซีย โอลโมทำผลงานได้ยอดเยี่ยม โดยเขาเป็นดาวซัลโวของทีม 4 ครั้งจาก 6 ฤดูกาลที่อยู่ที่นั่น

ความท้าทายจากเกาหลีใต้และการตัดสินใจย้ายทีม

การเป็นดาวซัลโว 4 จาก 6 ฤดูกาลบ่งบอกถึงความสามารถของโอลโมที่จะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญให้กับทีมชุดใหญ่ของบาร์เซโลนาในอนาคต อย่างไรก็ตาม โอลโมต้องออกจากทีมในปี 2014 หลังไม่ได้รับข้อเสนอใหม่

เรื่องราวไม่ได้จบลงแค่นั้น ในปี 2011 ลามาเซียได้ต้อนรับนักเตะเยาวชนจากเกาหลีใต้สองคน ได้แก่ อี ซึง-วู และ จาง กยอล-ฮี ซึ่งทำให้สื่อสเปนเริ่มจับตามองและอวยนักเตะทั้งสองอย่างหนัก ทำให้พวกเขากลายเป็นตัวหลักของทีม ในขณะที่ชื่อของโอลโมเริ่มถูกลืมไป

แม้โอลโมจะทำผลงานได้ดี แต่ด้วยการที่ไม่ได้รับโอกาสลงเล่นมากเท่าที่ควร ทำให้เขาตัดสินใจย้ายออกจากทีมในปี 2014

ดินาโม ซาเกร็บ: จุดเริ่มต้นใหม่

หลังจากผิดหวังกับบาร์เซโลนา ดินาโม ซาเกร็บ ทีมยักษ์ใหญ่จากโครเอเชียยื่นสัญญาให้โอลโม เขาไม่รอช้า ตัดสินใจย้ายทีมทันที

เพียงหนึ่งปีหลังจากเข้าร่วมทีมเยาวชน โอลโมก็ได้ก้าวขึ้นมาเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ และทำผลงานได้ยอดเยี่ยม ยิงได้ 34 ประตูและทำ 28 แอสซิสต์จาก 124 เกมทุกรายการ คว้าแชมป์ลีกโครเอเชีย 5 สมัย, โคเอเชียน คัพ 3 สมัย และได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำปีของทีมถึง 2 ครั้ง

ในปี 2020 แอร์เบ ไลป์ซิก ทีมฟอร์มแรงจากเยอรมนีได้ดึงตัวเขาไปร่วมทีม ซึ่งโอลโมกลายเป็นกำลังสำคัญของทีม และช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล 2 สมัย และ เยอรมัน ซูเปอร์คัพ 1 สมัย

บทสรุปของคู่แข่งจากเกาหลีใต้

แม้ว่า อี ซึง-วู และ จาง กยอล-ฮี จะเข้ามาเป็นดาวเด่นในทีมลามาเซีย แต่สุดท้ายพวกเขาไม่ได้ไปไกลกว่าการเล่นในทีมเยาวชนของบาร์เซโลนา ทั้งคู่ไม่เคยลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่เลยสักนัดเดียว และในปี 2017 ทั้งคู่ถูกปล่อยออกจากทีม

ปัจจุบัน อี ซึง-วู ค้าแข้งอยู่กับ ซูวอน เอฟซี ในเกาหลีใต้ ส่วน จาง กยอล-ฮี หลังจากออกจาก โซล จุงนัง เอฟซี ในปี 2022 ก็ยังไม่มีทีมใหม่จนถึงปัจจุบัน