สถานการณ์ของ Real Madrid กำลังเข้าสู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ หลังจากสโมสรยักษ์ใหญ่แห่งกรุงมาดริดปิดฉากปี 2025 ด้วยผลงานชนะติดต่อกันสามนัด ผลงานดังกล่าวช่วยคลายแรงกดดันในระยะสั้นได้บ้าง แต่เบื้องหลังความสำเร็จชั่วคราวนั้น ฝ่ายบริหารยังคงมีคำถามใหญ่เกี่ยวกับทิศทางของทีมในระยะยาว โดยเฉพาะเรื่องตำแหน่งกุนซือใหญ่ที่ยังไม่มั่นคงอย่างแท้จริง
Florentino Perez ประธานสโมสรผู้ทรงอิทธิพล ตระหนักดีว่าชัยชนะไม่กี่นัดยังไม่เพียงพอจะกลบปัญหาเชิงโครงสร้างที่ฝังรากลึกในถิ่นซานติอาโก เบร์นาเบว ความไม่สม่ำเสมอของฟอร์มการเล่น ปัญหาภายในห้องแต่งตัว และความกดดันจากแฟนบอล ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้อนาคตของสโมสรยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน
ฟอร์มดีแต่ยังไม่มั่นใจในตัวกุนซือ
แม้ทีมจะเก็บชัยชนะได้อย่างต่อเนื่องในช่วงปลายปี แต่รายงานจากสื่อใกล้ชิดสโมสรระบุว่าฝ่ายบริหารยังไม่เชื่อมั่นเต็มร้อยในศักยภาพของ Xabi Alonso ในการพาทีมกลับสู่ความยิ่งใหญ่แบบยั่งยืน การตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตำแหน่งผู้จัดการทีมยังคงถูกพูดถึงอย่างจริงจัง โดยเฉพาะหากผลงานในศึกสแปนิช ซูเปอร์คัพ ไม่เป็นไปตามความคาดหวัง
สำหรับเปเรซ ความสำเร็จของเรอัล มาดริด ไม่ได้วัดกันแค่ชัยชนะระยะสั้น แต่ต้องรวมถึงความมั่นคงของโครงสร้างทีม ภาพลักษณ์ของสโมสร และความเชื่อมั่นในระยะยาว เขาต้องการผู้นำที่สามารถจัดการปัญหาภายในได้อย่างเด็ดขาด พร้อมปลุกจิตวิญญาณ “ราชันชุดขาว” ให้กลับมาอีกครั้ง
วิกฤตภายในซานติอาโก เบร์นาเบว
แหล่งข่าวใกล้ชิดสโมสรยืนยันว่า เปเรซรับรู้ถึงสัญญาณวิกฤตที่กำลังก่อตัว ไม่ว่าจะเป็นความไม่ลงรอยกันของผู้เล่นบางราย ฟอร์มที่ตกลงของนักเตะหลัก และแรงกดดันจากสื่อสเปนที่จับตาทุกการตัดสินใจของสโมสร การแก้ปัญหาเหล่านี้จำเป็นต้องใช้บุคคลที่มีบารมีสูงและได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย
ในสายตาของเปเรซ ผู้จัดการทีมคนใหม่ต้องไม่ใช่แค่แท็กติกเชียนที่เก่ง แต่ต้องเป็นผู้นำที่สามารถควบคุมห้องแต่งตัวได้อย่างแท้จริง และเข้าใจวัฒนธรรมของเรอัล มาดริด อย่างลึกซึ้ง
เป้าหมายเดียวในใจประธานสโมสร
ตามรายงานของสื่อสเปน Defensa Central ระบุว่า เปเรซมีชื่อกุนซืออยู่ในใจเพียงคนเดียว และชื่อนั้นไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจสำหรับแฟนบอล นั่นคือ Zinedine Zidane อดีตตำนานนักเตะและโค้ชผู้เคยสร้างความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่กับสโมสร
สำหรับเปเรซ หากทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเขาเพียงฝ่ายเดียว ซีดานคงกลับมานั่งเก้าอี้กุนซือไปแล้ว นั่นจะเป็นการคุมทีมคำรบที่สามของโค้ชชาวฝรั่งเศส ซึ่งเคยพาเรอัล มาดริด คว้าแชมป์รายการใหญ่ระดับยุโรปมาแล้วหลายสมัย
ทำไมต้องเป็นซีดาน
เหตุผลสำคัญที่ทำให้ซีดานยังคงเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่ง คือบุคลิกความเป็นผู้นำและอิทธิพลในห้องแต่งตัว เปเรซเชื่อว่าซีดานมีความสามารถพิเศษในการจัดการกับซูเปอร์สตาร์ และสร้างสมดุลระหว่างนักเตะรุ่นใหญ่กับดาวรุ่ง
ผู้เล่นหลายคนในทีมชุดปัจจุบันเติบโตมากับภาพลักษณ์ของซีดานในฐานะไอดอล โดยเฉพาะ Rodrygo และ Vinicius Junior ที่รู้จักชื่อเสียงของเขามาตั้งแต่วัยเด็ก ความเคารพที่นักเตะมีต่อซีดานถูกมองว่าเป็นกุญแจสำคัญในการฟื้นฟูความสามัคคีของทีม
เสียงสนับสนุนจากนักเตะ
รายงานระบุว่าบรรดานักเตะตัวหลักจำนวนไม่น้อยแสดงท่าทีสนับสนุนแนวคิดการกลับมาของซีดาน พวกเขาเชื่อว่าการมีโค้ชที่เข้าใจสโมสรและแรงกดดันในระดับสูง จะช่วยเพิ่มแรงจูงใจและความมั่นใจให้กับทีมได้อย่างมาก
โรดรีโกและวินิซิอุส จูเนียร์ ต่างคุ้นเคยกับแนวคิดฟุตบอลและการสื่อสารของซีดานเป็นอย่างดี หากการกลับมาเกิดขึ้นจริง การปรับตัวของทีมจึงไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่ ตรงกันข้าม อาจช่วยให้ฟอร์มการเล่นของแนวรุกกลับมาน่ากลัวอีกครั้ง
การตัดสินใจที่อาจชี้ชะตาสโมสร
ท้ายที่สุด การเลือกกุนซือคนต่อไปจะเป็นหนึ่งในการตัดสินใจสำคัญที่สุดของเปเรซในช่วงหลัง หากเรอัล มาดริด ต้องการกอบกู้ศักดิ์ศรีและกลับไปยืนบนจุดสูงสุดของยุโรปอีกครั้ง การหาบุคคลที่ใช่ในเวลาที่เหมาะสมคือสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ในสายตาของประธานสโมสร ชื่อของซีดานไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่คือความหวังเดียวในการนำพา “ราชันชุดขาว” หลุดพ้นจากความไม่แน่นอน และกลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่อย่างที่แฟนบอลทั่วโลกคาดหวัง.