เอซี มิลานต้องยอมรับความจริงที่เจ็บปวด หลังจากลงทุนมหาศาลเพื่อคว้าตัว คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู แต่ผลงานของกองหน้าชาวฝรั่งเศสยังไม่สามารถตอบสนองความคาดหวังของสโมสรและแฟนบอลในฤดูกาลแรกที่ ซานซิโร
การย้ายมาจากเชลซีเกิดขึ้นช่วงท้ายตลาดนักเตะซัมเมอร์ ด้วยค่าตัวสูง และความคาดหวังทันทีคือการสร้างผลกระทบในแนวรุกของทีมทันที แต่ความเป็นจริงกลับไม่เป็นไปตามนั้น เนื่องจากประสิทธิภาพการเล่นและอิทธิพลของเอ็นคุนคูลดลง ทำให้ฝ่ายบริหารต้องทำการประเมินสถานการณ์อย่างเข้มข้นก่อนสิ้นปี
การประเมินการลงทุนและฟอร์มที่ลดลงของ Nkunku
เอ็นคุนคูถูกดึงมาด้วยค่าตัว 38 ล้านยูโร พร้อมโบนัสอีก 4 ล้านยูโร รวมประมาณ 657 ล้านบาทบวกโบนัสอีก 69 ล้านบาท นับเป็นหนึ่งในการซื้อขายที่แพงที่สุดของเอซี มิลานในรอบหลายฤดูกาล
ปัญหาหลักคือผลงานการยิงประตูที่น้อยเกินไป ในขณะที่ทีมต้องการกองหน้าที่สามารถสร้างสรรค์เกมรุกได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่สิ่งที่กังวลมากกว่า คือฟอร์มการเล่นของเอ็นคุนคูยังไม่ใกล้เคียงกับช่วงเวลาที่ดีที่สุดในเยอรมนี
รายงานภายในสโมสรระบุว่า นักเตะไม่ได้อยู่ในสภาพจิตใจที่ดีที่สุด โดยในเอกสารระบุว่าเขา “ไม่แฮปปี้” ซึ่งหมายความว่าสภาพจิตใจส่วนตัวส่งผลต่อฟอร์มการเล่นโดยตรง
สถานการณ์นี้เป็นสิ่งที่ทั้งสโมสรและ มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี กุนซือของทีมรับรู้ แต่ตัวเลือกในการปล่อยนักเตะออกไปก่อนกำหนดเริ่มถูกพิจารณามากขึ้น เพราะเอ็นคุนคูเริ่มถูกวางอยู่ใน ลิสต์ขาย
บทบาทของเอเยนต์และแนวทางการตัดสินใจของสโมสร
มีการนัดหมายระหว่าง พินี่ ซาฮาวี เอเยนต์ของนักเตะ และ อิกลี่ ตาเร่ ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาของสโมสร ก่อนสิ้นปี เพื่อหารือเกี่ยวกับนักเตะหลายราย แต่จุดสนใจหลักอยู่ที่เอ็นคุนคู
ก่อนหน้านี้ จอร์โจ้ ฟูลรานี เคยแสดงความกังวลเกี่ยวกับค่าตัวนักเตะ โดยกล่าวว่า “นี่คือการลงทุนที่สูงเกินไปสำหรับสโมสร เราได้ดำเนินการกับ Jashari ไปแล้ว”
ความคิดเห็นนี้เกิดจากความเสี่ยงในการซื้อสองนักเตะที่มีมูลค่าราว 40 ล้านยูโรถือว่าเกินจำเป็น แต่ตาเร่มองว่านี่เป็นโอกาสตลาดที่หาได้ยาก
ความสัมพันธ์ระยะยาวระหว่างตาเร่และซาฮาวี ทำให้การตัดสินใจเรื่องนักเตะทำได้ง่ายขึ้น เอเยนต์รายนี้มีความสัมพันธ์ทางวิชาชีพที่แข็งแกร่งกับตาเร่มานาน
แนวทางต่อไป: เปิดทางขาย Nkunku
ในการประชุมครั้งนี้ ตาเร่มีแผนที่จะให้ซาฮาวีหาผู้ซื้อสำหรับเอ็นคุนคู ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่โครงสร้างทีมของมิลานจะเปลี่ยนแปลงในครึ่งฤดูกาล
สำหรับเอซี มิลาน การตัดสินใจปล่อยเอ็นคุนคูเป็นโอกาสในการปรับกลยุทธ์การซื้อขายนักเตะ ในขณะที่ตัวนักเตะเอง การย้ายทีมอาจเป็นทางออกให้ฟื้นฟูเส้นทางอาชีพที่เคยสดใสกลับมาอีกครั้ง
