แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยุคใหม่ภายใต้การคุมทีมของ รูเบน อาโมริม (Ruben Amorim) กำลังกลายเป็นหัวข้อร้อนในวงการฟุตบอลอังกฤษ หลังจากสถิติอย่างเป็นทางการจาก Opta ยืนยันว่า “ปีศาจแดง” คือทีมที่เล่นบอลยาวมากที่สุดในศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2025/26 นี้
แม้หลายคนจะ menganggap สไตล์บอลยาวเป็นแนวทางที่ไม่ค่อยสวยงาม แต่วิธีการของอาโมริมกลับทำให้แมนยูเริ่มกลับมามีผลลัพธ์ในสนาม และค่อยๆ menemukan identitas baru yang kuat di bawah manajer asalโปรตุเกสรายนี้
ขึ้นแท่นจ่าฝูงในสถิติ “บอลยาว” ของพรีเมียร์ลีก
จากข้อมูล Opta ระบุว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ส่งบอลยาวไปแล้วถึง 466 ครั้ง ในพรีเมียร์ลีก — มากที่สุดในลีกตอนนี้
พวกเขาแซงหน้า วูล์ฟแฮมป์ตัน (464) และทิ้งห่างทีมอย่าง ลิเวอร์พูล, อาร์เซนอล และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แบบไม่เห็นฝุ่น
ที่น่าสนใจคือ แมนฯ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ซึ่งเป็นทีมที่เน้นการครองบอลกลับส่งบอลยาวเพียง 307 ครั้ง เท่านั้น นั่นแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างทางปรัชญาการเล่นอย่างสิ้นเชิงระหว่างทั้งสองทีมยักษ์ใหญ่
ชัยชนะเหนือคู่ปรับ ลิเวอร์พูล จุดประกายแท็กติกใหม่
ชัยชนะสุดดราม่าของแมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 เหนือ ลิเวอร์พูล ที่แอนฟิลด์ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในแผนบอลยาวของอาโมริม
เกมดังกล่าว แมนยูเล่นอย่างมีวินัย เน้นจังหวะสวนกลับเร็ว และใช้บอลยาวเพื่อสร้างโอกาสในแนวรุก
อาร์เน่ สลอต (Arne Slot) กุนซือลิเวอร์พูล ยอมรับหลังเกมว่าเขารู้สึก “ประหลาดใจ” กับแนวทางของยูไนเต็ดที่ดูเรียบง่ายแต่ได้ผล
แต่สำหรับ รูเบน อาโมริม นี่คือส่วนหนึ่งของแผนที่วางไว้อย่างละเอียด
“เรามีผู้เล่นที่แข็งแกร่งในแดนหน้า และถ้าเราชนะบอลจังหวะที่สองได้ เราสามารถสร้างโอกาสได้ทันที”
— รูเบน อาโมริม กล่าวหลังเกมกับลิเวอร์พูล
เซนเน่ ลัมเมนส์ จุดเริ่มต้นของเกมรุกบอลยาว
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้แท็กติกนี้ประสบความสำเร็จคือการมาถึงของ เซนเน่ ลัมเมนส์ (Senne Lammens) ผู้รักษาประตูดาวรุ่งชาวเบลเยียมที่เพิ่งย้ายเข้ามาในช่วงซัมเมอร์
ลัมเมนส์เป็นผู้รักษาประตูที่มีการเปิดบอลระยะไกลแม่นยำและทรงพลัง เขากลายเป็น “จุดเริ่มต้นของเกมรุก” ที่ยูไนเต็ดใช้เป็นอาวุธสำคัญ
ในเกมกับลิเวอร์พูลเพียงนัดเดียว เขาส่งบอลยาวถึง 37 ครั้งจาก 46 ครั้ง ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงมากสำหรับผู้รักษาประตูระดับพรีเมียร์ลีก
สไตล์นี้ทำให้แฟนบอลบางส่วนหวนคิดถึงยุคของทีม “Crazy Gang” อย่าง วิมเบิลดัน ช่วงปลายยุค 80 ที่ใช้พละกำลังและบอลยาวเป็นอาวุธหลักในการคว้าชัยเหนือคู่แข่งที่เหนือชั้นกว่า
รูเบน อาโมริม และแนวคิด “ฟุตบอลแบบมีประสิทธิภาพ”
แม้แท็กติกบอลยาวของอาโมริมจะถูกวิจารณ์จากบางฝ่าย เช่น เจมี่ คาร์ราเกอร์ ที่มองว่าระบบ 3-4-3 ของอาโมริมดูเหมาะกับการเจอทีมใหญ่เท่านั้น แต่ผลลัพธ์ในสนามกลับพูดแทนทุกอย่าง
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เก็บชัยชนะติดต่อกันสองเกม และเริ่มกลับมามีความมั่นใจอีกครั้ง หลังช่วงต้นฤดูกาลที่ผลงานไม่สม่ำเสมอ
เกมรุกดูมีพลังมากขึ้น การเปลี่ยนจังหวะรวดเร็วขึ้น และเกมรับก็เริ่มมีความมั่นใจมากกว่าเดิม
สุดสัปดาห์นี้ ยูไนเต็ดมีโปรแกรมเปิดบ้านพบ ไบรท์ตัน และแน่นอนว่าแฟนบอลต่างรอชมว่าทีมของอาโมริมจะเดินหน้าต่อด้วยสไตล์ “บอลยาวประสิทธิภาพสูง” ต่อไปหรือไม่
บอลยาวอาจไม่งามตา แต่ได้ผลจริง
ในโลกฟุตบอลยุคปัจจุบันที่หลายทีมพยายามเล่นสวย เน้นการครองบอลและการจ่ายสั้นแบบต่อเนื่อง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดของรูเบน อาโมริมกลับเลือกเดินเส้นทางที่แตกต่าง
แม้แท็กติกนี้จะไม่หวือหวา แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ “ผลลัพธ์” — และตอนนี้ ผลงานเริ่มพิสูจน์แล้วว่าฟุตบอลแบบเรียบง่ายแต่เฉียบคมยังคงได้ผลในพรีเมียร์ลีกที่แข่งขันสูงที่สุดในโลก
แมนฯ ยูไนเต็ดอาจไม่ได้เล่นฟุตบอลที่สวยที่สุด แต่พวกเขาเริ่มกลับมามี ประสิทธิภาพ, ความเชื่อมั่น และเอกลักษณ์ที่ชัดเจนอีกครั้ง ภายใต้การนำของรูเบน อาโมริม
อ่านด้วย :