ซีเนดีน ซีดาน (Zinedine Zidane) ตำนานลูกหนังระดับโลกของฝรั่งเศส และอดีตกุนซือผู้สร้างยุคทองให้กับเรอัล มาดริด ออกมาเปิดใจเป็นครั้งแรกเกี่ยวกับความฝันอันยิ่งใหญ่ของเขา — นั่นคือการได้กลับมารับตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติฝรั่งเศส (Les Bleus) ในอนาคตอันใกล้ หลังจากยุคของดิดิเยร์ เดส์ชองส์สิ้นสุดลงหลังศึกฟุตบอลโลก 2026
กุนซือวัย 52 ปีรายนี้ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า การได้คุมทีมชาติบ้านเกิดคือหนึ่งในเป้าหมายสำคัญที่สุดของชีวิตการเป็นโค้ชของเขา “ผมอยากกลับมาคุมทีมชาติฝรั่งเศส นั่นคือความฝันและแรงผลักดันที่ยังคงอยู่ในใจผมเสมอ” ซีดานกล่าวอย่างหนักแน่น
เส้นทางจากตำนานนักเตะสู่โค้ชผู้ยิ่งใหญ่
ซีดานเคยพาฝรั่งเศสคว้าแชมป์โลกในปี 1998 และคว้าแชมป์ยูโรปี 2000 ซึ่งทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลฝรั่งเศส
หลังจากแขวนสตั๊ดในปี 2006 เขากลับเข้าสู่วงการอีกครั้งในฐานะผู้จัดการทีมเรอัล มาดริด และสร้างผลงานระดับตำนานด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก สามสมัยติดต่อกัน (2016–2018) ซึ่งถือเป็นความสำเร็จที่ไม่มีใครทำได้มาก่อนในยุคสมัยใหม่ของฟุตบอลยุโรป
นับตั้งแต่อำลาตำแหน่งกุนซือมาดริดในปี 2021 ซีดานได้รับข้อเสนอมากมายจากหลายสโมสรระดับโลก เช่น เชลซี, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และแม้แต่จากลีกซาอุดิอาระเบีย แต่เขาปฏิเสธทั้งหมด เพราะมีเพียง “ตำแหน่งเดียว” ที่เขาเฝ้ารอ — นั่นคือการได้กลับมาคุมทีมชาติฝรั่งเศส
เดส์ชองส์ กับยุคทองของทีมตราไก่
ดิดิเยร์ เดส์ชองส์เข้ารับตำแหน่งกุนซือทีมชาติฝรั่งเศสในปี 2012 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทีมชาติอยู่ในสภาวะไม่มั่นคง หลังจากยุคตกต่ำในปี 2010 เขาค่อยๆ ฟื้นฟูทีมด้วยระบบการเล่นที่มีวินัยและสมดุลระหว่างรุ่นเก่ากับดาวรุ่ง
ในยุคของเดส์ชองส์ “ตราไก่” กลับมาผงาดอีกครั้ง — ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศยูโร 2016, คว้าแชมป์โลก 2018 และเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 ก่อนพ่ายต่ออาร์เจนตินาในการดวลจุดโทษอย่างสุดมันส์
อย่างไรก็ตาม หลังจากทำงานมานานกว่า 12 ปี เดส์ชองส์ได้เปิดเผยว่าเขาจะลงจากตำแหน่งหลังจบศึกฟุตบอลโลก 2026 ซึ่งเปิดทางให้ซีดานมีโอกาสทองในการรับไม้ต่อจากเพื่อนร่วมรุ่นที่เคยคว้าแชมป์โลกด้วยกันในปี 1998
ซีดานเผยชีวิตหลังเลิกเล่น และแรงบันดาลใจจากยอดโค้ช
ระหว่างการให้สัมภาษณ์ในงาน Trento Sports Festival ซีดานเปิดเผยถึงเส้นทางชีวิตหลังเลิกเล่นฟุตบอลว่า “ตอนที่ผมเลิกเล่น ผมไม่รู้เลยว่าควรทำอะไรต่อ สามปีแรกผมเหมือนหลงทาง จนกระทั่งตัดสินใจเรียนหลักสูตรโค้ช และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเส้นทางใหม่”
เขายังกล่าวถึงโค้ชที่มีอิทธิพลต่อแนวคิดการทำทีมของเขา “ผมได้เรียนรู้มากที่สุดจาก มาร์เชลโล ลิปปี เขาเชื่อมั่นในตัวผมตอนอยู่ยูเวนตุส และช่วยให้ผมเข้าใจความหมายของคำว่าทีม”
“อีกคนคือ คาร์โล อันเชล็อตติ — เขาไม่ใช่แค่โค้ช แต่เป็นเพื่อนที่ผมเคารพที่สุด เขาสอนให้ผมเข้าใจว่าความเป็นผู้นำไม่ได้มาจากการสั่งการเสียงดัง แต่มาจากความไว้วางใจและความเข้าใจในผู้เล่น”
เป้าหมายต่อไป: ทีมชาติฝรั่งเศส
เมื่อถูกถามถึงอนาคต ซีดานตอบอย่างชัดเจนว่าเขาพร้อมจะกลับมาทำงานอีกครั้ง “ผมจะกลับไปคุมทีมแน่นอน ส่วนจะเป็นที่ไหน เรามาดูกัน แต่ทีมชาติฝรั่งเศสคือหนึ่งในเป้าหมายหลักของผม”
เขายังพูดถึงความผูกพันกับสโมสรเก่า “ยูเวนตุสยังคงอยู่ในหัวใจของผมเสมอ ผมไม่รู้ว่าทำไมมันยังไม่เกิดขึ้น แต่ผมยังรักที่นั่นเหมือนเดิม”
แต่เมื่อพูดถึง Les Bleus แววตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น “การได้คุมทีมชาติบ้านเกิดจะเป็นเกียรติสูงสุดในชีวิตของผม มันไม่ใช่แค่เรื่องของฟุตบอล แต่มันคือการรับใช้ประเทศชาติ”
มุมมองเชิงวิเคราะห์และผลกระทบต่อวงการฟุตบอลฝรั่งเศส
ผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายมองว่า หากซีดานได้รับตำแหน่งหลังปี 2026 นั่นอาจเป็นการเปิดยุคใหม่ของฟุตบอลฝรั่งเศส — ยุคที่ผสมผสานความเป็นผู้นำสงบนิ่งแบบเดส์ชองส์กับสไตล์การเล่นเชิงรุกและเทคนิคสูงแบบ “ซิซู”
นอกจากนี้ บรรดาดาวรุ่งอย่าง คีเลียน เอ็มบัปเป้, เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า และออเรลิยง ชูอาเมนี ต่างเป็นนักเตะที่เคยร่วมงานกับซีดานมาก่อนในเรอัล มาดริด ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบมหาศาลหากเขาได้คุมทีมชาติในอนาคต
“ซีเนดีน ซีดาน” ยังคงเป็นชื่อที่เต็มไปด้วยอิทธิพลในวงการฟุตบอลโลก และการที่เขาแสดงความตั้งใจจะคุมทีมชาติฝรั่งเศส ทำให้แฟนบอลทั่วโลกจับตาอย่างใกล้ชิด หากฝันนี้กลายเป็นจริง เราอาจได้เห็นยุคใหม่ของ “Les Bleus” ที่เต็มไปด้วยความสง่างามแบบซีดานอย่างแท้จริง
อ่านด้วย :