ศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 2025/26 รอบแบ่งกลุ่มนัดแรกที่สนามเอติฮัด สเตเดียม เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 19 กันยายน 2025 กลายเป็นค่ำคืนที่มีทั้งรอยยิ้มและรสขมผสมกันในเวลาเดียวกัน สำหรับแฟนบอลที่เฝ้าติดตามการกลับมาของ เควิน เดอ บรอยน์ สู่บ้านเก่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ในสนามแห่งนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอลา ยังคงแสดงพลังอำนาจอันแข็งแกร่งด้วยการโค่น นาโปลี จากอิตาลีไปด้วยสกอร์ 2-0 จากผลงานของ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ และ เจเรมี โดคู สองแนวรุกที่กำลังฟอร์มแรง
แต่แทนที่การแข่งขันนี้จะกลายเป็นค่ำคืนพิเศษของ เดอ บรอยน์ การกลับมาครั้งแรกของเขาที่เอติฮัดหลังย้ายไปนาโปลี กลับต้องจบลงด้วยความเจ็บปวด เมื่อ อันโตนิโอ คอนเต้ ตัดสินใจเปลี่ยนตัวเขาออกตั้งแต่ครึ่งแรก
จุดเปลี่ยนเกม: ใบแดงของนาโปลี
นาทีที่ 21 กลายเป็นหายนะสำหรับนาโปลี เมื่อ โจวานนี ดิ ลอเรนโซ กัปตันทีมโดนใบแดงโดยตรง ทำให้ทีมต้องเล่นเพียง 10 คนตลอดเกือบ 70 นาทีที่เหลือ
สถานการณ์บีบบังคับให้คอนเต้ต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็ว เขาเลือกเสริมเกมรับด้วยการส่ง มาเทียส โอลิเวรา ลงสนาม ซึ่งนั่นหมายความว่า เดอ บรอยน์ ต้องเป็น “เหยื่อทางแท็กติก” ถูกถอดออกในนาทีที่ 26 แม้จะเพิ่งได้สัมผัสบรรยากาศพิเศษในการเจอกับทีมเก่า
คอนเต้อธิบาย: “มันเป็นทางเลือกเดียวที่ผมมี”
หลังจบเกม คอนเต้ให้สัมภาษณ์กับ Football Italia ถึงการตัดสินใจดังกล่าว
“บางครั้งโชคชะตาก็โหดร้ายเกินไป ฤดูกาลที่แล้วทั้งซีซั่นเรามีใบแดงแค่หนึ่งครั้ง แต่ที่นี่เราเสียคนตั้งแต่นาทีที่ 20 ผมไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเสียสละเควิน”
คอนเต้ยอมรับว่ามันคือการตัดสินใจที่ทั้งยากและเจ็บปวด แต่หากไม่รีบปรับเกมรับตั้งแต่ช่วงต้น ทีมอาจต้องเจอกับผลลัพธ์ที่เลวร้ายกว่านี้
ความรู้สึกของคอนเต้ต่อเดอ บรอยน์
แม้จะถูกมองว่าเป็นการตัดสินใจที่เด็ดขาด แต่คอนเต้ก็ไม่ได้ปิดบังความรู้สึกเสียใจที่ทำลายโอกาสอันพิเศษของลูกทีม
“ผมรู้สึกสงสารเขามาก เพราะนี่คือแมตช์ที่มีความหมายกับเขาอย่างยิ่ง ได้กลับมาเล่นที่เอติฮัดกับอดีตสโมสรต่อหน้าแฟนบอลที่เคยรักเขา แต่นี่คือสิ่งเดียวที่ผมทำได้เพื่อปกป้องทีม”
เดอ บรอยน์พลาดโอกาสทอง แต่ซิตี้ยังแกร่งเกินไป
แม้นาโปลีจะเล่นด้วย 10 คน แต่พวกเขาก็พยายามอย่างเต็มที่ในการต้านทานเกมรุกของเจ้าบ้านเกือบหนึ่งชั่วโมงเต็ม จนกระทั่งนาทีที่ 56 ความแข็งแกร่งของ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ก็ปลดล็อกด้วยประตูแรก ก่อนที่ เจเรมี โดคู จะซัดประตูปิดท้ายในนาทีที่ 66
ผลการแข่งขัน 2-0 ทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เก็บสามแต้มแรกได้อย่างมั่นใจ ขณะที่นาโปลีต้องกลับไปทบทวนการจัดการเกมใหญ่ โดยเฉพาะปัญหาวินัยในสนาม
เกมนี้ไม่เพียงตอกย้ำพลังของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่ยังเผยให้เห็นอีกด้านของฟุตบอล — การตัดสินใจที่โหดร้ายซึ่งกุนซือจำเป็นต้องทำเพื่อทีม แม้มันจะทำร้ายความรู้สึกของนักเตะและแฟนบอลก็ตาม
สำหรับ เควิน เดอ บรอยน์ การกลับมาครั้งแรกที่เอติฮัดอาจไม่เป็นไปตามความฝัน แต่เรื่องราวนี้ยังไม่จบ และยังมีโอกาสให้เขาได้พิสูจน์ตัวเองกับนาโปลีในเวทีใหญ่ต่อไป
อ่านด้วย :