แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังตกเป็นข่าวว่ากำลังพิจารณาอนาคตของกัปตันทีมคนสำคัญอย่าง บรูโน่ แฟร์นันด์ส อย่างจริงจัง โดยมีความเป็นไปได้สูงที่เพลย์เมกเกอร์ชาวโปรตุเกสรายนี้จะอำลาถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ดในช่วง ตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์ปี 2026
แฟร์นันด์สยังคงเป็นหัวใจแดนกลาง แต่อนาคตเริ่มสั่นคลอน
แม้ว่าแฟร์นันด์สจะยังเป็นกำลังหลักในแดนกลางของ “ปีศาจแดง” และมีอิทธิพลอย่างมากต่อรูปแบบการเล่นของทีม แต่ปัจจัยด้าน อายุที่กำลังย่างเข้า 31 ปีในปี 2026 รวมถึง มูลค่าการขายที่ยังสูง ทำให้บอร์ดบริหารเริ่มมองถึงการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์เพื่ออนาคตระยะยาวของสโมสร
ความสนใจจากสโมสรยักษ์ใหญ่ใน Saudi Pro League อย่าง อัล ฮิลาล, อัล นาสเซอร์ และ อัล อิตติฮัด ยังคงมีมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ตลาดซัมเมอร์ที่ผ่านมา ซึ่งกลายเป็นแรงกระตุ้นให้กระแสข่าวการย้ายทีมของแฟร์นันด์สถูกพูดถึงอย่างไม่หยุด
ยูไนเต็ดวางแผนรับมือหากขายกัปตันทีม
จากรายงานของ Football Insider ระบุว่า แมนฯ ยูไนเต็ดได้พิจารณาการปล่อยตัวแฟร์นันด์สมาตั้งแต่ซัมเมอร์ปี 2025 แล้ว แต่ยังรอข้อเสนอที่เหมาะสมและคุ้มค่ากับบทบาทกัปตันทีม
ปัจจุบันแฟร์นันด์สยังมีสัญญาจนถึงปี 2027 พร้อมออปชั่นขยายสัญญาเพิ่ม แต่เมื่อถึงปี 2026 สโมสรเชื่อว่าอาจถึงเวลาเหมาะสมที่จะทำกำไรจากการขาย ก่อนที่มูลค่าของเขาจะเริ่มลดลงตามอายุ
ชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียในการปล่อยแฟร์นันด์ส
ตั้งแต่ย้ายมาจากสปอร์ติ้ง ลิสบอนในเดือนมกราคม 2020 บรูโน่ แฟร์นันด์สลงเล่นให้แมนฯ ยูไนเต็ดไปแล้ว 294 นัด ทำได้ 99 ประตู และ 86 แอสซิสต์ ถือเป็นหนึ่งในกองกลางที่มีผลงานยอดเยี่ยมที่สุดในพรีเมียร์ลีกตลอดหลายปีที่ผ่านมา
การเสียกัปตันทีมที่เป็นทั้ง ผู้นำในสนามและผู้สร้างสรรค์เกมรุกหลัก ย่อมส่งผลกระทบต่อสมดุลของทีมอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ฝ่ายบริหารของยูไนเต็ดเชื่อว่าหากถึงเวลาที่เหมาะสม การขายแฟร์นันด์สสามารถสร้าง ทุนใหม่ เพื่อใช้รีเฟรชขุมกำลัง และเปิดโอกาสให้ผู้เล่นอายุน้อยขึ้นมาทดแทน
จุดเปลี่ยนสู่อนาคตใหม่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
การตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของแฟร์นันด์สจึงเป็นมากกว่าการขายผู้เล่น แต่ยังเป็น สัญญาณของทิศทางใหม่ ที่สโมสรต้องการสร้างขึ้นในยุคต่อไป หากมีข้อเสนอมหาศาลจากซาอุฯ หรือทีมใหญ่ในยุโรป ยูไนเต็ดอาจไม่ลังเลที่จะปล่อยกัปตันทีมคนนี้ และใช้เงินก้อนนั้นเพื่อวางรากฐานโครงการระยะยาวที่สดใหม่กว่า
อ่านด้วย :
