อิวาน ราคิติช (Ivan Rakitic) มิดฟิลด์จอมเก๋าชาวโครเอเชีย ได้ประกาศแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการในวัย 37 ปี ปิดฉากเส้นทางลูกหนังที่เต็มไปด้วยความสำเร็จทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ โดยเฉพาะกับเซบีญา, บาร์เซโลนา และทีมชาติโครเอเชีย ที่เขามีส่วนสำคัญพาทีมทะลุเข้าชิงฟุตบอลโลก 2018
แม้ชื่อของเขาจะถูกจดจำในฐานะหนึ่งในยอดกองกลางของยุโรป แต่หลายคนอาจไม่เคยรู้ว่า ในปี 2011 ราคิติชเคยเกือบย้ายไปเล่นในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กับสโมสรซันเดอร์แลนด์ ซึ่งในขณะนั้นไม่ได้อยู่ในกลุ่มทีมยักษ์ใหญ่เลยแม้แต่น้อย
และถ้าดีลนั้นเกิดขึ้นจริง วันนี้ประวัติศาสตร์ของเขา รวมถึงของหลายสโมสร อาจเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
เกือบลงเอยกับซันเดอร์แลนด์ ด้วยค่าตัวไม่ถึง 10 ล้านบาท
ย้อนกลับไปในเดือนมกราคม ปี 2011 ราคิติชซึ่งในขณะนั้นค้าแข้งอยู่กับชาลเก้ 04 ในบุนเดสลีกา เยอรมัน กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่สัญญาใกล้หมดลง ทีมแมวมองของซันเดอร์แลนด์ที่มีเอียน แอตกินส์ (Ian Atkins) เป็นหัวเรือใหญ่ ได้เล็งเห็นโอกาสทองในการคว้าตัวกองกลางฝีเท้าฉกาจรายนี้มาร่วมทีม
ซันเดอร์แลนด์ในตอนนั้นเตรียมข้อเสนอเบื้องต้นไว้ที่ประมาณ £380,000 หรือประมาณ 8 ล้านบาท เท่านั้น ซึ่งถือเป็นดีลที่น่าดึงดูดมาก เมื่อพิจารณาถึงศักยภาพของราคิติช
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการล่าช้าและขาดความชัดเจนจากฝ่ายบริหารของซันเดอร์แลนด์ กลับกลายเป็นการปล่อยโอกาสสำคัญหลุดลอยไป เมื่อชาลเก้เลือกปล่อยตัวราคิติชให้กับเซบีญา ด้วยค่าตัวราว £2 ล้าน หรือประมาณ 44 ล้านบาท เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียฟรีในช่วงซัมเมอร์
เซบีญา จุดเปลี่ยนสำคัญในเส้นทางลูกหนัง
sbotop สล็อต – การย้ายไปเล่นให้เซบีญากลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ในเส้นทางอาชีพของราคิติช ที่นั่นเขาพัฒนาฝีเท้าอย่างต่อเนื่อง จนก้าวขึ้นมาเป็นกัปตันทีม และพาเซบีญาคว้าแชมป์ยูโรปาลีกได้อย่างยิ่งใหญ่
ฟอร์มการเล่นอันโดดเด่นของเขาในลาลีกาไม่รอดพ้นสายตาของบาร์เซโลนา ที่เดินหน้าคว้าตัวเขาไปร่วมทีมในปี 2014 และที่คัมป์ นู นั่นเอง ราคิติชได้สัมผัสความสำเร็จสูงสุดในระดับสโมสร ด้วยการคว้าเทรเบิลแชมป์ในฤดูกาลแรก (ลาลีกา, โกปา เดล เรย์ และยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก)
เขายังทำประตูในนัดชิงแชมเปียนส์ลีกปี 2015 ที่พบกับยูเวนตุส และกลายเป็นหนึ่งในขุนพลหลักของยุคทองบาร์เซโลนา คว้าแชมป์รวมมากถึง 13 รายการ ก่อนกลับมาสู่เซบีญาในช่วงปลายอาชีพ และย้ายไปค้าแข้งที่ซาอุดิอาระเบียช่วงสั้น ๆ กับอัล ชาบับ
แอตกินส์กับความเสียดายที่ยังฝังใจ
หลังจากพลาดการคว้าตัวราคิติช แอตกินส์ได้ย้ายไปทำงานให้เอฟเวอร์ตันในปี 2012 เขายอมรับในภายหลังว่า ความผิดพลาดในครั้งนั้นส่งผลต่อเส้นทางของซันเดอร์แลนด์ในแง่ระบบการเสริมทัพ
แอตกินส์เผยว่า ภายหลังจากที่เขาออกจากทีม ซันเดอร์แลนด์เริ่มใช้งบมหาศาลเพื่อซื้อนักเตะหลายรายที่ไม่สามารถตอบแทนได้ตามคาด ห่างไกลจากดีลคุณภาพราคาถูกอย่างราคิติชที่เคยอยู่แค่ปลายนิ้วสัมผัส
จากความพลาดเล็ก ๆ สู่เส้นทางตำนาน
ราคิติชอาจเคยเกือบย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีกให้กับทีมกลางตาราง แต่โชคชะตาพลิกผันพาเขาไปสู่ความยิ่งใหญ่ในสเปน และในนามทีมชาติโครเอเชีย กับสถิติรับใช้ทีมชาติกว่า 100 นัด และพาทีมไปถึงรอบชิงฟุตบอลโลก
การพลาดดีลครั้งนั้น ไม่ได้เพียงแต่เป็นบทเรียนของซันเดอร์แลนด์เท่านั้น แต่ยังเป็นตัวอย่างของความสำคัญในการตัดสินใจในช่วงเวลาสั้น ๆ ที่อาจเปลี่ยนอนาคตของทั้งนักเตะและสโมสรไปอย่างสิ้นเชิง
อ่านด้วย :
