ในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยแรงกดดันและข่าวลือต่างๆ เกี่ยวกับอนาคตของพวกเธอในทีมชาติ เพิร์ลลี่ ตัน และ เอ็ม. ธินา คู่หูขนไก่มือฉมังจากมาเลเซีย ยังคงโชว์ฟอร์มการเล่นที่แข็งแกร่งสมกับเป็นคู่มือวางอันดับ 1 ของรายการและมือ 4 ของโลก ด้วยการฝ่าด่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศในการแข่งขันแบดมินตันไทยแลนด์ โอเพ่น 2024 ได้สำเร็จ
การแข่งขันในรอบที่สองที่จัดขึ้น ณ สนามนิบุตร สเตเดียม ใจกลางกรุงเทพฯ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นศึกหนักระหว่าง เพิร์ลลี่-ธินา กับคู่ปรับเก่าจากอินโดนีเซีย ซิตี ฟาเดีย ซิลวา รามาดันธี และ ลานนี เทรีย มายาซารี ซึ่งเป็นคู่ที่เคยเขี่ยพวกเธอตกรอบแรกแบบสุดช็อกในรายการมาเลเซีย โอเพ่นเมื่อต้นปี
แมตช์นี้เต็มไปด้วยความดุเดือดตลอด 56 นาที โดยคู่จากมาเลเซียสามารถเอาชนะไปได้แบบลุ้นระทึก 2-1 เกม (21-17, 10-21, 21-15) การแก้แค้นครั้งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยปลดล็อกความผิดหวังในอดีตเท่านั้น แต่ยังเป็นการประกาศศักดาว่าพวกเธอยังคงยืนหยัดในฐานะหนึ่งในคู่หูหญิงที่อันตรายที่สุดของโลก
ก้าวผ่านแรงกดดันนอกสนาม ด้วยจิตใจที่แข็งแกร่ง
ตามรายงานของ ทางเข้าsbotop เบื้องหลังชัยชนะครั้งนี้ เพิร์ลลีและทีน่าต้องเผชิญกับแรงกดดันมากมาย เมื่อมีข่าวลือแพร่สะพัดเกี่ยวกับอนาคตของพวกเธอในทีมชาติ ภายหลังสัญญากับสมาคมแบดมินตันมาเลเซีย (BAM) กำลังจะหมดลงหลังจบศึกไทยแลนด์ โอเพ่น ทำให้หลายฝ่ายจับตาว่า การแข่งขันครั้งนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในเส้นทางอาชีพของทั้งสองคน
แม้จะมีเรื่องให้กังวลใจอยู่นอกสนาม แต่ทั้งคู่ยังคงแสดงความเป็นมืออาชีพเต็มที่ โดยโฟกัสเฉพาะเกมในสนามเท่านั้น สะท้อนถึงวุฒิภาวะและความมุ่งมั่นที่จะทุ่มเทสุดตัวเพื่อสร้างผลงานที่ดีที่สุดในทุกการแข่งขัน
เป้าหมายต่อไป มุ่งสู่รอบรองชนะเลิศ
หลังผ่านบททดสอบที่ยากลำบากมาได้ เพิร์ลลี่-ธินา กำลังเตรียมตัวสำหรับภารกิจถัดไปในรอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยจะต้องพบกับผู้ชนะระหว่างคู่จากจีน เฉิน ชิงเฉิน-หวัง ถิง เก๋อ กับคู่พี่น้องขวัญใจเจ้าถิ่น เบญญาภา และ นันทกาญจน์ เอี่ยมสอาด ซึ่งไม่ว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไร ก็รับประกันได้ว่า จะเป็นบททดสอบที่โหดหินอีกหนึ่งด่านสำหรับเพิร์ลลี่และธินา ที่ต้องโชว์ทั้งกลยุทธ์และความแข็งแกร่งทางจิตใจให้เต็มที่
รับรู้ถึงจุดอ่อน พร้อมพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น
หลังจบเกม ธินา ได้ให้สัมภาษณ์กับสหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) โดยยอมรับว่าพวกเธอรู้สึกโล่งใจที่ล้างแค้นได้สำเร็จ แต่ก็ยังมองว่าฟอร์มการเล่นของพวกเธอยังมีจุดที่ต้องปรับปรุงอีกมาก
“แน่นอนค่ะ พวกเราดีใจที่เอาชนะได้ในวันนี้ โดยเฉพาะเมื่อคิดถึงความเจ็บปวดที่พวกเราเคยเจอจากการพ่ายแพ้ในมาเลเซีย โอเพ่น มันเป็นความรู้สึกที่ดีมากที่สามารถล้างแค้นได้สำเร็จ แต่ก็ยังมีหลายอย่างที่เราต้องทำให้ดีขึ้น โดยเฉพาะในเกมถัดไป ที่เราต้องเล่นให้เฉียบคมขึ้นกว่านี้” ธินา กล่าว
ทางด้าน เพิร์ลลี่ ก็แสดงความเห็นในทำนองเดียวกัน โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการรักษาสมาธิในช่วงเวลาที่ข่าวลือต่างๆ รุมเร้า
“พวกเราพยายามอย่างเต็มที่ที่จะโฟกัสกับเกมในสนาม และไม่ให้เสียงรบกวนนอกสนามมาทำให้เสียสมาธิ ตอนนี้เราขอทุ่มเททั้งหมดที่มีในสนาม และเรื่องอื่นๆ ไว้ค่อยคิดกันหลังจบทัวร์นาเมนต์ค่ะ” เพิร์ลลี่ กล่าวอย่างหนักแน่น
มองไปข้างหน้า เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่าในโอลิมปิก ปารีส 2024
สำหรับเพิร์ลลี่และธินา การแข่งขันในรายการไทยแลนด์ โอเพ่นครั้งนี้ ไม่ได้มีความหมายแค่เพียงการไล่ล่าแชมป์ระดับ Super 500 เท่านั้น แต่ยังเป็นการเตรียมความพร้อมสู่เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น นั่นคือการคว้าเหรียญรางวัลในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ปารีส 2024 ที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้า
การควบคุมอารมณ์และรับมือกับแรงกดดันทั้งในสนามและนอกสนาม จะเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้พวกเธอสามารถก้าวไปเป็นหนึ่งในตัวเต็งลุ้นเหรียญทองในมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติครั้งสำคัญนี้
ชัยชนะเหนือ ซิตี ฟาเดีย และ ลานนี ในครั้งนี้ จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่การผ่านเข้ารอบ 8 ทีมเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณเตือนให้วงการแบดมินตันโลกรู้ว่า แม้จะมีปัญหาภายนอกมากมาย เพิร์ลลี่ และ ธินา ก็ยังคงเป็นหนึ่งในคู่หญิงที่อันตรายและมีศักยภาพสูงที่สุดในโลก
เส้นทางของพวกเธอยังคงดำเนินต่อไปในกรุงเทพฯ และชัยชนะในครั้งนี้จะยังคงดังก้องในหัวใจของแฟนๆ แบดมินตันไปอีกนาน พร้อมประกาศว่าพวกเธอพร้อมแล้วที่จะเผชิญหน้ากับโลกใบนี้ ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีสัญญาในมือก็ตาม
อ่านด้วย :
