โดมินิค โซลันกี้ กองหน้าคนใหม่ของท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ที่กำลังปรับตัวให้เข้ากับชีวิตในสโมสรใหม่ เขากำลังพิสูจน์ฝีเท้าด้วยการทำประตูสำคัญ ๆ ต่อเนื่อง พร้อมกับท่าดีใจที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอนิเมะญี่ปุ่น
ก่อนจะเป็นที่กล่าวขวัญในเรื่องท่าดีใจจากอนิเมะ โซลันกี้ เคยเกือบถูกตราหน้าว่าเป็น “ดาวรุ่งตลอดกาล” ทั้งที่เขาเคยถูกยกย่องตั้งแต่สมัยอายุ 15-16 ปี แต่เมื่อก้าวขึ้นมาเล่นในทีมระดับซีเนียร์ เขากลับใช้เวลานานกว่าจะหาพื้นที่ของตนเองในสนามฟุตบอลได้อย่างแท้จริง ซึ่งหลายคนอาจประสบปัญหาเดียวกับเขา แล้วโซลันกี้ทำอย่างไรถึงฝ่าฟันช่วงเวลานั้นไปได้? นี่คือเรื่องราวของเขา
เติบโตจาก ค็อบแฮม: ก้าวแรกสู่เวทีใหญ่
หลังจาก โรมัน อบราโมวิช เข้าซื้อสโมสรเชลซีในปี 2003 เชลซีก็กลายเป็นสโมสรที่พร้อมทุ่มงบมหาศาลเพื่อซื้อผู้เล่นชั้นนำจากทั่วโลก ความสำเร็จของทีมเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เพื่อให้ยั่งยืน สโมสรจึงได้เริ่มโครงการพัฒนาศูนย์ฝึกซ้อมเยาวชนอย่างจริงจัง ศูนย์ฝึกค็อบแฮมที่สร้างขึ้นในปี 2007 กลายเป็นสถานที่ผลิตดาวรุ่งหลายราย และโดมินิค โซลันกี้ คือหนึ่งในผู้เล่นที่เติบโตมาจากที่นั่น
ในปี 2014 โซลันกี้ได้รับความคาดหวังอย่างสูงว่าจะเป็นกองหน้าตัวหลักของเชลซีและทีมชาติอังกฤษ เขาถูกเปรียบเทียบกับดิดิเยร์ ดร็อกบา และได้รับคำชมจาก โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือเชลซีในเวลานั้นที่กล่าวว่า “หากโซลันกี้ไม่กลายเป็นผู้เล่นทีมชาติอังกฤษ ผมคงจะรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต”
จากความผิดหวังถึงการหวนคืน
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ลงเล่นให้เชลซีในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก โซลันกี้กลับไม่ได้รับโอกาสลงเล่นทีมชุดใหญ่อีกเลย เขาย้ายไปลิเวอร์พูลในปี 2017 ด้วยความหวังว่าจะสามารถสร้างชื่อให้กับตัวเองที่นั่น แต่ด้วยการมีสามประสานอย่างบ็อบบี้ ฟีร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่ และโม ซาลาห์ ทำให้เขามีโอกาสลงเล่นน้อยมาก
แม้จะมีช่วงเวลายากลำบาก แต่โซลันกี้ไม่ยอมแพ้ เขาพบแรงบันดาลใจจากสารคดีของนักกีฬาระดับโลก เช่น ไมเคิล จอร์แดน และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เขานำแนวคิดและวิธีการรับมือกับความยากลำบากของพวกเขามาปรับใช้กับชีวิตการเล่นฟุตบอลของตนเอง
การพลิกฟื้นที่บอร์นมัธ และการเฉลิมฉลองแบบอนิเมะ
โซลันกี้ย้ายไปบอร์นมัธในปี 2018 แม้จะเริ่มต้นอย่างช้า ๆ แต่เขาก็พัฒนาขึ้นและกลายเป็นกองหน้าคนสำคัญของทีม การกลับมาโชว์ฟอร์มได้ดีทำให้โซลันกี้ได้รับความสนใจอีกครั้ง และสุดท้ายท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์จ่ายเงินถึง 60 ล้านปอนด์ เพื่อคว้าตัวเขามาแทนที่ แฮร์รี่ เคน
นอกจากผลงานในสนามแล้ว โซลันกี้ยังเป็นที่รู้จักจากการเฉลิมฉลองหลังทำประตูด้วยท่าดีใจจากอนิเมะชื่อดังอย่าง “นารูโตะ” และ “วันพีซ” เขาอธิบายว่า อนิเมะเหล่านี้ช่วยเสริมสร้างแนวคิดการไม่ยอมแพ้และการต่อสู้เพื่อความฝันของตัวเอง ซึ่งตรงกับแนวคิดในฐานะนักฟุตบอลมืออาชีพ
“ผมคือแฟนอนิเมะตัวยง โดยเฉพาะเรื่องนารูโตะ มันไม่ใช่แค่การ์ตูน แต่เต็มไปด้วยแง่คิดที่ลึกซึ้ง ผมเรียนรู้จากเรื่องราวของตัวละครที่ไม่ยอมแพ้ และนั่นทำให้ผมสามารถผ่านพ้นช่วงเวลายากลำบากในอาชีพมาได้” โซลันกี้ กล่าว
ตอนนี้ โซลันกี้กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นของอาชีพ ด้วยการยิงประตูอย่างต่อเนื่อง และยังคงสร้างสีสันด้วยท่าดีใจสไตล์อนิเมะของเขา แฟน ๆ ต่างรอดูว่าเขาจะเลือกท่าของตัวละครใดมาใช้ต่อไป